วันนี้ (24 มิ.ย. 2565) ในวาระครบรอบ 90 ปี ประชาธิปไตย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ขึ้นกล่าวปัจฉิมกถา ในงาน ‘2nd PBIC Research Symposium: 90 ปีประชาธิปไตย 88 ปีธรรมศาสตร์’ ซึ่งจัดโดยวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พรมยงค์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ก่อนที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์ในฐานะผู้ว่าฯ กทม. ชัชชาติเริ่มกล่าวถึงช่วง 90 ปีที่ผ่านมา หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองว่า “ประชาธิปไตย 90 ปี ผมว่ามันเครียดนะ มีแต่เรื่องที่หดหู่ หมดความหวัง แต่ว่าเลือกตั้งผู้ว่าฯ มีความหวัง ถึงเวลาของคนรุ่นใหม่แล้ว ที่จะต้องรับคบเพลิงต่อ”
เขาให้ข้อคิดด้วยกับคนรุ่นใหม่ด้วยว่า “ประชาธิปไตยไม่ได้น่ากลัว การเลือกตั้งเราอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องคนละบริบทกับเรา เป็นเรื่องของนักการเมือง แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าผมเป็นนักการเมืองจ๋านะ ตอนสมัครผู้ว่าฯ” พร้อมย้ำว่า “ผมเชื่อว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนโฉมการเมือง จากนักการเมืองอาชีพ ไปสู่คนที่เป็นนักคิด มีความหวัง สร้างความหวัง”
ชัชชาติให้คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้ามาทำการเมืองว่า การเมืองไม่ใช่สิ่งน่ากลัว แต่ต้องถามว่า เราเข้าใจสิ่งที่ทำดีหรือไม่ “ผมว่าอันนี้สำคัญนะ ถามว่าผมจะสมัครผู้ว่าฯ กทม. เป็นตำแหน่งการเมือง ผมเข้าใจสิ่งที่ผมทำดีพอไหม อันนี้นักการเมืองต้องคิดเลย คนที่ทำการเมือง เพราะว่าเรามีลูกจ้าง ข้าราชการ กทม. อีก 8 หมื่นคน ที่ทำเรื่องนี้มาตลอดชีวิตเค้า
“การเมืองไม่ใช่เรื่องที่ฉันอยากจะมาเล่นการเมือง มันเป็นเรื่องของเทคนิคที่ต้องเข้าใจระดับหนึ่ง อย่างน้อยคุณต้องเข้าใจมากกว่าหรือเท่ากับคนที่เค้าประจำอยู่แล้ว แต่ว่าการเมืองที่ผ่านมาบางทีไม่ได้เป็นอย่างนั้น บางที เฮ้ย กูอยากเล่นการเมือง เดี๋ยวมีคะแนนเสียง ก็ชนะได้ แต่ไม่เคยมองด้านเทคนิคว่าเรามีความสามารถหรือเปล่า”
อีกเรื่องหนึ่งที่ชัชชาติแนะนำ คือ ต้องสนุกกับการทำการเมือง เขาเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถามทีมอยู่ตลอด รวมถึงที่ห้องก็มีกระทั่งป้ายติดเลยว่า ‘สนุก’
เขาอธิบายว่า “การเมืองไม่ใช่เรื่องของความหดหู่ หน้าที่เรา ไม่ใช่ create fear แต่เรา create hope ผมบอกผมจะเป็นผู้นำแห่งความหวัง ผมไม่เคยพูดว่า “อย่าไปเลือกคนนู้น คนนี้น่ากลัว” ไม่เคยพูด แต่เลือกเราเพราะเราคือ hope เราคือความหวัง”
ก่อนที่จะย้ำอีกครั้งว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่เกิดขึ้น อาจจุดประกายการเปลี่ยนแปลงการเมืองในระดับใหญ่ได้ “ประชาธิปไตยในอนาคตไม่ได้น่ากลัวนะ ผมว่าเด็กรุ่นใหม่ทุกคนทำได้ ทุกคนมี capacity มีความสามารถแน่นอน ผมเชื่อว่ามันจะเปลี่ยน ผมเชื่อว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ มันก็มีโอกาสเปลี่ยน landscape ของการเมืองใหญ่ วิธีคิด วิธีการทำนโยบาย วิธีการรวมอาสาสมัคร ฯลฯ”
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/pbic.tu/videos/5319876421425919