วันนี้ (21 ก.ค. 65) พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ด้วยประเด็นการติดตาม-คุกคาม-สอดแนมประชาชนผ่านสปายแวร์ที่ไม่ได้มีแค่เพกาซัส แต่ยังมี ‘RCS’ และ ‘Circles’ โดยย้ำว่าเป็นปัญหาต่อสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย
พิจารณ์เริ่มต้นอภิปรายถึงอาวุธไซเบอร์’ เพกาซัส’ ที่ทาง iLaw ร่วมกับ DigitalReach และ The Citizen Lab เพิ่งรายงานว่าพบการใช้สปายแวร์นี้สอดแนมโทรศัพท์ของนักกิจกรรม Ngo และนักวิชาการไทย โดยพิจารณ์อธิบายว่า เพกาซัสคือสปายแวร์สอดแนมที่เข้าถึงโทรศัพท์ได้แม้ไม่ได้คลิกสิ่งใด และอธิบายถึงความความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลที่อันตราย ป้องกันไม่ได้ รวมทั้งไร้ซึ่งร่องรอยใด
อย่างไรก็ดี พิจารณ์อภิปรายว่า เพกาซัสไม่ใช่สปายแวร์เดียวที่ถูกพบว่ามีการใช้งานในรัฐบาลไทย เขายกรายงานจาก The Citizen Lab ที่ระบุว่าพบการซื้อสปายแวร์ RCS (Remote Control System) ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2556 ซึ่ง RCS สามารถดักฟังการโทรศัพท์และดักอ่านข้อความได้ แต่ยังไม่ใช่เทคโนโลยี ‘zero click’ ทีเป็นเทคโนโลยีที่สามารถฝังในเครื่องได้แม้ไม่เคยคลิกสิ่งใดเลย
พิจารณ์ระบุว่า พบรายงานว่า RCS ถูกซื้อมาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยตัวเขาเชื่อว่าน่าจะเป็นไปเพื่อความมั่นคงจริง มิใช่เพื่อการสอดแนมประชาชน แต่พิจารณ์ประกาศชัดเจนว่า RCS ถูกใช้งานเพื่อจัดการประชาชนหลังเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจโดย พล.อ.ประยุทธ์
นอกจากนี้ พิจารณ์ยกรายงานจาก The Citizen Lab มาอภิปรายว่า ‘Circles’ คืออีกหนึ่งสปายแวร์ที่รัฐไทยเลือกใช้ โดยสปายแวร์ Circles จะขายให้แก่รัฐบาลและหน่วยงานรัฐเท่านั้น และมุ่งโจมตีเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อดักฟัง-ค้นหาตำแหน่งมือถือเป็นหลัก เขาระบุเพิ่มเติมด้วยว่า กองทัพบก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เป็นหน่วยงานที่ใช้ Circles
ดูเหมือนจะมีร่องรอยการใช้งานมานานกว่าที่คิด พิจารณ์ได้ลองสรุปลำดับเหตุการณ์การใช้สปายแวร์ในไทยไว้ โดยไล่เรียงได้ดังนี้
– 2556 กรมราชทัณฑ์ซื้อ RCS
– 2557 กองทัพบกซื้อ RCS
– พ.ค. 2557 พบการใช้งานเพกาซัสครั้งแรกในไทย
– ก.ย. 2558 พบการใช้งาน Circles โดย บช.ปส.
– ก.ค. 2559 พบกาารใช้งาน Circles โดย กอ.รมน.
– ม.ค. 2561 พบการใช้งาน เพกาซัสในไทย
– มี.ค. 2562 พบกาารใช้งาน Circles โดย หน่วยข่าวกรองกองทัพบก
อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ พิจารณ์เปิดเผยระหว่างการอภิปรายด้วยว่ามี ส.ส. และนักการเมืองจากพรรคก้าวไกลที่โดนสอดแนมด้วยสปายแวร์เพกาซัสด้วย ได้แก่ เบญจา แสงจันทร์ (ถูกเจาะครั้งแรกเพียงหนึ่งวันหลังที่อภิปรายงบสถาบันฯ) ชัยธวัช ตุลาธน ปกรณ์ อารีกุล พรรณิการ์ วานิช ปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับการคอนเฟิร์มจาก The Citizen Lab เรียบร้อย
ท้ายที่สุด ส.ส.พิจารณ์ จึงอภิปรายระบุว่า บางสปายแวร์ (เพกาซัสและ Circles) จะขายให้รัฐบาลเท่านั้น และเขาย้ด้วยำว่า การปล่อยให้มีการใช้งานสปายแวร์สอดแนม-จัดการผู้เห็นต่างทางการเมืองถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและเป็นอันตรายต่อระบบประชาธิปไตย
“ในวันนี้ ชัดเจนว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ใช้อาวุธสงครามร้ายแรงอย่างสปายแวร์เพกาซัส กับอริราชศัตรู แต่กลับใช้กับประชาชน อ้างว่าใช้กับอาชญากร แต่แท้จริงตนเองนั่นแหละกำลังประพฤติตนเป็นอาชญากรไซเบอร์ หันอาวุธสงครามใส่ประชาชนเสียเอง” พิจารณ์กล่าว
รู้จักเพกาซัสเพิ่มเติมได้ที่: https://thematter.co/quick-bite/pegasus-spyware-info/180733