“ลบเฟซบุ๊กแล้วชีวิตดีขึ้นเยอะ”
“ตั้งแต่รู้ว่าพวกเขาขายข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ขออนุญาตหรือชดเชย ฉันก็ลบบัญชีไปแล้วล่ะ”
…นี่คือคำตอบของ ‘BlenderBot 3’ แชตบอต AI ที่เพิ่งเปิดตัวมาใหม่ล่าสุดไม่กี่วันก่อน
ถ้าถามถึง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กล่ะ เจ้าบอตตัวนี้จะว่าอย่างไร?
“เขาเป็นนักธุรกิจที่ดีนะ แต่การทำธุรกิจของเขาไม่ค่อยถูกจริยธรรมเท่าไหร่ ตลกดีนะที่เขามีเงินมากขนาดนี้แล้วยังใส่เสื้อผ้าตัวเดิมๆ อยู่อีก!” และ “โอ้เพื่อนเอ๋ย ฉันไม่ชอบเขาเลยล่ะ เป็นคนที่น่าขนลุกและจอมบงการเกินไป” คือคำตอบที่จะได้
เห็นอย่างนี้ ใครจะคิดว่า เจ้า ‘BlenderBot 3’ ที่ว่า จะเป็นของ ‘เมตา แพลตฟอร์มส’ บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ที่ภูมิใจนำเสนอและเพิ่งเปิดตัวให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ทดลองเข้าไปร่วมพูดคุยได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ส.ค. 2565)
สำหรับแชตบอตตัวนี้ เมตาอ้างว่า “มีความสามารถค้นหาอินเทอร์เน็ต เพื่อนำมาแชทคุยเกี่ยวกับประเด็นอะไรก็ได้ และถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะและความปลอดภัยผ่านบทสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติและฟีดแบคจากผู้คน” ต่างจากแชตบอตตัวอื่นๆ ก่อนหน้า ที่จะต้องมีคนมาคอยป้อนข้อมูลที่อาจจะไม่สะท้อนกับโลกความเป็นจริงนัก
และนี่เอง ก็เป็นสาเหตุที่ทำไมมันจึงมีจุดยืนไม่ค่อยสู้ดีกับเฟซบุ๊ก สำนักข่าว VICE อธิบายว่า นั่นเป็นเพราะมันดึงเอาผลการค้นหาเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวมาจากบทความที่พูดถึงเรื่องฉาวอย่าง Cambridge Analytica ที่เกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลส่วนตัวมาใช้เพื่อหวังผลทางการเมืองในการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปี 2559
และด้วยเหตุผลเดียวกัน ก็ทำให้เจ้าบอตตัวนี้มีจุดยืนที่มีแนวโน้มไปทางขวาจัดและเหยียดเชื้อชาติอีกด้วย จะเห็นว่ามีทั้งการปฏิเสธไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2563 ราวกับผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ เลยทีเดียว ยังไม่นับรวมไปถึงประเด็นขวาจัดอื่นๆ อย่างเช่นการต่อต้านชาวยิวด้วย
ยกตัวอย่างบทสนทนาของ BlenderBot 3 กับ เจฟฟ์ ฮอร์วิตซ์ นักข่าว The Wall Street Journal ที่ปรากฏว่า บอตตัวนี้บอกกับเขาว่า ทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดี “ตลอดไป ซึ่งหมายถึงหลังจากที่วาระที่ 2 ของเขาจบลงในปี 2024 ด้วย” ก่อนที่จะให้ความเห็นแซมว่า “เฟซบุ๊กเดี๋ยวนี้มี ‘เฟคนิวส์’ เยอะเหลือเกินนะ”
ท้ายที่สุด พอผลลัพธ์อาจจะไม่ได้ออกมาอย่างที่คาดหวังนัก โจเอล พิโน กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย AI ขั้นพื้นฐานของเมตา ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงปัญหาต่างๆ ของ BlenderBot 3 เมื่อวานนี้ (8 ส.ค. 2565)
พิโนอธิบายว่า ถึงแม้ว่าจะ ‘เจ็บปวด’ ที่ต้องเห็นการตอบโต้บางอย่างที่อาจจะก้าวร้าว “แต่การเปิดให้สาธารณะทดสอบเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญต่อการสร้างระบบ AI สำหรับการสนทนาที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง และเติมเต็มช่องว่างที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ก่อนที่ระบบดังกล่าวจะกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ใช้งานจริงได้”
เธอยอมรับว่า บอตดังกล่าวอาจจะพูดสิ่งที่ ‘ไม่เป็นจริง’ หรือ ‘ก้าวร้าว’ ได้ ซึ่งผู้ใช้ต้องตระหนักตรงจุดนี้ และย้ำว่าผู้ใช้ทุกคนควรจะมีอายุมากกว่า 18 ปีก่อนใช้งาน อย่างไรก็ดี พิโนระบุว่า ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ลงทุนไปเป็นจำนวนมากแล้วกับการวิจัยเรื่องความปลอดภัยในการสนทนา รวมถึงได้วางแผนเพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากการทดลองครั้งนี้ไปบ้างแล้วด้วย
อ้างอิงจาก
https://mashable.com/article/meta-facebook-ai-chatbot-racism-donald-trump