สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ ‘บก.ลายจุด’ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง เป็นผู้นำจัดแฟลชม็อบ ‘วันอาทิตย์สีดำ’ วันนี้ (2 ต.ค. 2565) เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งต่อได้
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลา 13.00-14.00 น. ที่บริเวณข้างกำแพงโรงภาพยนตร์สกาลาเก่า สยามสแควร์ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันติดสติกเกอร์ #ไล่ประยุทธ์ ที่เตรียมมากว่า 20,000 ชิ้น และมีนักกิจกรรรมจากกลุ่มทะลุวังอย่าง บุ้ง–เนติพร เสน่ห์สังคม และ ใบปอ–ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ รวมถึง จ่านิว–สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เข้าร่วมด้วย
สมบัติกล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ คือ ‘กิจกรรมวอลเปเปอร์’ เพื่อเป็นการเริ่มต้นแคมเปญ ‘วันอาทิตย์สีดำ’ ซึ่งเขาเปิดเผยว่า จะจัดให้มีกิจกรรมทุกวันอาทิตย์ เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก โดยจะร่วมกิจกรรมจากที่ไหนก็ได้ แต่ให้ใส่เสื้อสีดำ และติดแฮชแท็ก #วันอาทิตย์สีดำ
“‘วันอาทิตย์สีดำ’ จะจัดทุกสัปดาห์ จนกว่าประชาชนเห็นว่ามันไม่เวิร์ก หรือไม่เล่นด้วยกับผม ถ้าประชาชนไม่เล่นด้วย ผมก็จะใส่เสื้อสีดำคนเดียว จนประยุทธ์ออกไป จะเป็นยังไงต้องตีความหรือออกแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ว่า เมื่อข้อความส่งออกไปแล้ว สังคมมีปฏิกิริยาต่อไอเดียนี้อย่างไร” สมบัติเปิดเผยต่อสื่อมวลชน
นอกจากนี้ สมบัติยังอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องมาจัดแฟลชม็อบที่บริเวณข้างกำแพงโรงภาพยนตร์สกาลาเก่าด้วยว่า “เห็นกำแพงนี้มันขาวดี และเป็นแลนด์มาร์กที่ดี และตรงนี้เป็นฟุตบาท ทีนี้ คุณศรีสุวรรณ (จรรยา) บอกว่า ถ้าใครลงถนน แกจะแจ้งความจับ ผมก็โอเค ผมไม่ลงถนนก็ได้ ผมอยู่บนฟุตบาทให้ ก็หวังว่าคุณศรีสุวรรณจะไม่บ้าจี้มาแจ้งความคนที่ยืนอยู่บนฟุตบาทนะครับ”
แฟลชม็อบ ‘วันอาทิตย์สีดำ’ ครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในปฏิกิริยาของภาคประชาชน หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ให้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากให้นับวาระนายกฯ 8 ปี โดยเริ่มจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 หรือวันที่ 6 เม.ย. 2560
สมบัติให้ความเห็นในเรื่องนี้ด้วยว่า แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ หมดสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี “แต่ในความเป็นนายกฯ ของประชาชน คุณประยุทธ์ไม่มีสถานะตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว” นอกจากนี้ เขายังมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำสิ่งที่ ‘ตรงข้ามกับมาตรฐานทางการเมือง’ โดยจะเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่สามารถอยู่เหนือกฎเกณฑ์ทางการเมืองได้