ภายหลังจากการประกาศควบรวมกิจการระหว่าง ‘ทรู’ และ ‘ดีแทค’ ธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ หน้าที่ของการเคาะดีลนี้ก็ตกเป็นของบอร์ด กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.
ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า กสทช. จะพิจารณาดีลควบรวมในวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค. 65) อย่างไรก็ดี พิรงรอง รามสูต หนึ่งในกรรมการ กสทช. เผยวันนี้ว่า มีการบรรจุเรื่องขอรวมกิจการไว้ในวาระการประชุมจริง แต่บอกไม่ได้ว่าจะลงมติเลยหรือไม่
ซึ่งวันนี้ (11 ต.ค. 65) ตัวแทนทรูและดีแทคได้เข้ายื่นเอกสารแก่ กสทช. เพื่อขอให้เร่งรัดตัดสินการควบรวมธุรกิจ ด้วยมองว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. อาจยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ในวันพรุ่งนี้
จักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ ตัวแทนจากทรู กล่าวว่า ทรูขอให้บอร์ด กสทช. พิจารณาและสรุปตัดสินการควบรวม 2 บริษัท เพราะใช้เวลายืดเยื้อกว่า 9 เดือนแล้ว และทำให้ธุรกิจเสียหาย
ตัวแทนจากทรูเผยว่า อยากให้ กสทช. พิจารณาแยกประเด็นการคุ้มครองผู้บริโภค ออกจากประเด็นการดำเนินธุรกิจ เพราะที่ผ่านมาทรูคำนึงถึงผู้บริโภคโดยตลอด ถ้า กสทช. กังวล ก็ให้กำหนดมาตรการควบคุมผู้ควบรวม พร้อมย้ำว่า คุณภาพต้องดีขึ้นแน่นอนเพราะเกิดจากการรวมตัวกัน
จักรกฤษณ์ กล่าวว่า “ถ้าผลการพิจารณาของบอร์ด กสทช. ออกพรุ่งนี้ ผู้บริโภคจะฟ้องศาลปกครองก็เป็นเรื่องของผู้บริโภค เราเชื่อว่าการฟ้องร้องจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเกิดความเสียหายกับผู้บริโภค เมื่อยังไม่ได้เกิดความเสียหายอะไรศาลท่านไม่น่าจะรับฟ้อง”
“กลับกัน ถ้าพรุ่งนี้ กสทช. ไม่เห็นชอบการควบรวม เราก็เสียหาย เราก็ควรมีสิทธิที่จะดำเนินการทางกฎหมาย เพราะเรารวมกิจการเราได้บอกผู้ถือหุ้นมาถ้าการควบรวมยังไม่เกิดขึ้นก็ย่อมเกิดผลกระทบกับผู้ถือหุ้น” ตัวแทนจากทรูระบุ
เลิศรัตน์ รตะนานุกูล ตัวแทนจากดีแทคก็ไม่น้อยหน้า เขาเผยว่า อยากได้ข้อสรุปชัดเจนจาก กสทช. เพราะการพิจารณาล่าช้าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และบอร์ดควรกำหนดเงื่อนไขเวลาที่ชัดเจนว่าจะสิ้นสุดการพิจารณาและได้ข้อยุติเมื่อไหร่
นอกจากตัวแทน 2 บริษัทแล้ว ยังมีผู้ใช้บริการทรูและดีแทค 30 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช. เพื่อขอใหเร่งพิจารณาการรวมธุรกิจเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีให้เกิดการควบรวมข้างต้น เพราะสภาองค์กรของผู้บริโภค พร้อมกับอีก 16 องค์กรผู้บริโภค เพิ่งออกแถลงการณ์คัดค้านการควบรวมทรู–ดีแทคไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
อ้างอิงจาก
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1031782
https://tna.mcot.net/business-1036023
https://thematter.co/brief/187260/187260