สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) ลงมติกันไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยคะแนนเสียง 143-5 ประณามการผนวกดินแดนที่ ‘ไม่ชอบด้วยกฎหมาย’ ของรัสเซีย ภายหลังกลับมาจัดการประชุมวาระพิเศษเร่งด่วนครั้งที่ 11 (Eleventh Emergency Special Session) วานนี้ (12 ตุลาคม)
อย่างไรก็ดี ในการลงมติครั้งนี้ มีอยู่ 35 ประเทศที่โหวตงดออกเสียง โดยมีไทยเป็นหนึ่งในนั้น ขณะที่ส่วนใหญ่เป็นประเทศในทวีปแอฟริกา เอเชียกลาง และทวีปอเมริกาและในแถบแคริบเบียน – รายชื่อประเทศทั้งหมดในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย
ไทย, แอลจีเรีย, อาร์เมเนีย, โบลิเวีย, บุรุนดี, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, จีน, คองโก, คิวบา, เอริเทรีย, เอสวาตินี, เอธิโอเปีย, กินี, ฮอนดูรัส, อินเดีย, คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน, ลาว, เลโซโท, มาลี, มองโกเลีย, โมซัมบิก, นามิเบีย, ปากีสถาน, แอฟริกาใต้, ซูดานใต้, ศรีลังกา, ซูดาน, ทาจิกิสถาน, โตโก, ยูกันดา, แทนซาเนีย, อุซเบกิสถาน, เวียดนาม และ ซิมบับเว
ขณะที่มีอยู่ 5 ประเทศที่โหวตไม่เห็นชอบ คือ เบลารุส, เกาหลีเหนือ, นิการากัว, ซีเรีย และรัสเซีย
มติดังกล่าว มีเนื้อหาเป็นการยืนยันถึงอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ประณามการผนวกดินแดนของรัสเซียใน 4 พื้นที่ยูเครน คือ โดเนตสก์ เคอร์ซอน ลูฮันสก์ และซาปอริซเซีย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายไม่ยอมรับการกระทำของรัสเซีย และเรียกร้องให้รัสเซียยกเลิกการตัดสินใจในประเด็นดังกล่าว และให้ถอนกองกำลังทหารออกไปจากยูเครนด้วย
สำหรับเหตุผลในการงดออกเสียงของไทย สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำ UN แถลงภายหลังการลงมติว่า
“ไทยเลือกที่จะงดออกเสียงในการลงมติ เนื่องจากมันเกิดขึ้นในบรรยากาศและสถานการณ์ที่พลิกผันได้ง่ายเป็นอย่างมากและเต็มไปด้วยอารมณ์ และนั่นยิ่งลดทอนโอกาสของการทูตช่วงวิกฤต ที่จะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาผ่านการเจรจาที่สันติและใช้ได้จริง ให้กับความขัดแย้งที่อาจผลักโลกไปสู่สงครามนิวเคลียร์และการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลก”
อ้างอิงจาก