เปิดฉากแล้วอย่างเป็นทางการ สำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (National Congress of the Chinese Communist Party) ครั้งที่ 20 โดยเริ่มวันนี้ (16 ตุลาคม) เป็นวันแรก ซึ่งเป็นการประชุมที่ถูกจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี เพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญของพรรค และในปีนี้ บุคคลที่น่าจับตาที่สุดก็คือ ‘สี จิ้นผิง’ ที่เตรียมจะได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคต่ออีก 5 ปี ในสมัยที่ 3
เป็นธรรมเนียมของทุกครั้ง การประชุมจะต้องเริ่มต้นด้วยการกล่าวสุนทรพจน์อันยาวเหยียดของผู้นำ โดย สี จิ้นผิง ก็ลุกขึ้นพูดโดยกล่าวถึงหลายประเด็น เพื่ออธิบายเป้าหมายนโยบายของรัฐบาลจีน และความสำเร็จใน 5 ปีที่ผ่านมา และพูดอยู่นาน 1 ชั่วโมง 45 นาที (แต่ก็ยังสั้นกว่าสถิติเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ 3 ชั่วโมงครึ่ง)
สำหรับประเด็นหลักๆ ที่คนจับตา อย่างเช่น นโยบาย ‘โควิดเป็นศูนย์’ (Zero-COVID) สีมองว่า เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของรัฐบาลจีน โดยกล่าวว่า นโยบายดังกล่าวถือเป็น “สงครามของประชาชนเต็มรูปแบบ ในการหยุดยั้งการระบาดของไวรัส”
ส่วนเรื่องฮ่องกงและมาเก๊า สีระบุว่า หลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ นั้นเป็นกลไกเชิงสถาบันที่ดีที่สุดแล้ว และต้องยึดถือไว้ในระยะยาว เขายังบอกอีกด้วยว่า การที่จีนเข้าไปควบคุมในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนจาก ‘ความโกลาหล’ มาสู่ ‘ความเป็นระเบียบ’
ที่สำคัญคือประเด็นของไต้หวัน สีก็ยังย้ำคำเดิมว่า จีนจะมุ่งหน้ารวมชาติกับไต้หวันภายใต้การปกครองของจีนต่อไป (ซึ่งก็ได้รับเสียงปรบมือจากในห้องประชุมอยู่อย่างยาวนาน) และกล่าวด้วยว่า “เราจะไม่ละทิ้งการใช้กำลัง และจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อหยุดยั้งขบวนการแบ่งแยกดินแดน”
ในช่วงท้าย เขาเปิดเผยด้วยว่า จีนจะไม่ดำเนินนโยบายด้วย ‘ลัทธิการขยายอาณาเขต’ (expansionism) และยังคงนโยบายการเปิดรับโลกภายนอกอยู่เหมือนเดิม พร้อมทั้งปิดท้ายด้วยการเรียกร้องให้ชาติจีนสามัคคีกันเพื่อมุ่งหน้าสู่การฟื้นฟูชาติจีน (national rejuvenation) ก่อนจะกลับมานั่งที่นั่งตามเดิม
ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ การถ่ายทอดสดก็ถูกตัดจบไป ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่ของการประชุมครั้งนี้จะไม่ได้ถูกเปิดเผยโดยสาธารณะ และกว่าจะรู้ผลการประชุมอีกที ว่าใครได้รับเลือกตำแหน่งอะไร ก็อีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า เมื่อคณะของผู้ที่ได้รับเลือกเดินลงมาบนพรมแดง เป็นการเปิดตัว
ขณะที่คาดกันว่า สี จิ้นผิง จะได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางต่อไป ส่วนตำแหน่งประธานาธิบดีจะมีการประกาศอีกครั้งในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (National People’s Congress) ในปีหน้า
อ้างอิงจาก