ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษา วันนี้ (22 ธันวาคม) ให้สั่งจำคุก ‘เพชร ธนกร’ นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 19 ปี เป็นเวลา 3 ปี แต่ให้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ในคดี ม.112 เหตุปราศรัยในการชุมนุม #คนนนท์ท้าชนเผด็จการ ที่ลานกิจกรรมท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563
คดีนี้ แรกเริ่มเป็นการกล่าวหาในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 เป็นคดีที่ถูกดำเนินคดีพร้อมกับ รุ้ง—ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ไมค์—ภานุพงศ์ จาดนอก, ไบรท์—ชินวัตร จันทร์กระจ่าง และ เพนกวิน—พริษฐ์ ชิวารักษ์ แต่เนื่องจากในขณะนั้น เพชรยังมีอายุ 17 ปี จึงถูกแยกมาดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนฯ จ.นนทบุรี
เพชรถูกแจ้งข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตาม ม.116 แต่ต่อมา พนักงานอัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ได้มีหนังสือถึงพนักงานสอบสวน ให้แจ้งข้อหาตาม ม.112 ด้วย โดยในเอกสารคำฟ้องระบุว่า คำปราศรัยของเพชร เป็นความเท็จ และเป็นการหมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ร.10
ทั้งนี้ คำปราศรัยของเพชรเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ที่เอกสารคำฟ้องอ้างอิงมา เป็นการปราศรัยในประเด็นที่ว่า ไม่ควรมีการใช้คำราชาศัพท์แบ่งชนชั้น ไม่ให้ศาสนามาครอบงำ และตั้งคำถามว่า พระมหากษัตริย์ยังเป็นสถาบันที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนได้หรือไม่
จนกระทั่งวันนี้ ศาลได้มีคำสั่งให้จำคุกเพชร 3 ปี ตามข้อหา ม.112 แต่พิจารณาให้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีอายุ 17 ปี เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนข้อหา ม.116 ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพิเคราะห์จากคำให้การพยานและหลักฐานฝ่ายโจทก์แล้ว ไม่ถือว่ามีน้ำหนักเพียงพอที่จะชี้ว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง
1 เดือนก่อน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน เพชรเพิ่งถูกพิพากษาโดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในคดี ม.112 อีกคดี จากการปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ6ธันวา63 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ โดยให้ลงโทษจำคุก 2 ปี แต่ให้เปลี่ยนโทษเป็นคุมประพฤติ และนำตัวไปฝึกอบรม กำหนดขั้นต่ำ 1 ปี 6 เดือน ขั้นสูงไม่เกิน 3 ปี
อ้างอิงจาก