จะเป็นอย่างไร หากรัฐบาลสามารถจับตามองประชาชนได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า? เมื่อผู้ประท้วงหลายรายในอิหร่านตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลอาจนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ เพื่อจับตาดูการประท้วงต่อต้านรัฐบาล
อธิบายก่อนว่า เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (facial recognition) คือ กระบวนการในการจดจำใบหน้า โดยนำไปเปรียบเทียบกับใบหน้าในฐานข้อมูล ซึ่งเราอาจคุ้นเคยในรูปแบบของการสแกนหน้าปลดล็อกโทรศัพท์ และเคยมีรายงานว่า จีนได้พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อการตรวจสอบพฤติกรรมของประชาชนในที่สาธารณะ จนไปถึงใช้เป็นเครื่องมือควบคุมชาวอุยกูร์ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดอีกด้วย
และล่าสุด ก็เริ่มมีข้อสังเกตมากมายว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นอีกครั้งในอิหร่าน หลังจากที่มีผู้ประท้วงหลายรายที่ไม่ได้ถูกจับกุมบนถนนที่พวกเขาไปประท้วง แต่กลับถูกจับกุมที่บ้านหลังจากการประท้วง 1-2 วัน
ชาปารัค ชาจาริซาเดห์ (Shaparak Shajarizadeh) นักกิจกรรมชาวอิหร่านได้ตั้งข้อสังเกตว่าอิหร่านอาจจะใช้เทคโนโลยีนี้มาปีกว่า หลังจากที่ฝ่ายนิติบัญญัติของอิหร่านเสนอระบบดังกล่าว อีกทั้งในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายศีลธรรม ยังได้กล่าวอีกว่า จะใช้ระบบจดจำใบหน้าเพื่อตรวจหาความไม่เหมาะสม และคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายฮิญาบ
นอกจากนี้ มาห์ซา อาลีมาร์ดานี (Mahsa Alimardani) นักวิจัยมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดที่ศึกษาเรื่องเสรีภาพในอิหร่าน ยังเชื่อว่า อิหร่านได้ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าดังกล่าวแล้ว เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อิหร่านได้สร้างฐานข้อมูลชีวมิติ (biometric database) ที่เก็บอัตลักษณ์ของบุคคลไม่ว่าจะเป็น ลายนิ้วมือ รูปร่าง พฤติกรรม และรวมไปถึงการสแกนใบหน้าด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าอิหร่านได้ลดจำนวน จนไปถึงยกเลิกตำรวจศีลธรรม ซึ่งบางคนอาจจะเข้าใจว่านี่อาจเป็นชัยชนะของผู้ประท้วง แต่แท้จริงแล้ว อิหร่านอาจจะหันไปใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อแก้ไขข้อจำกัดบางอย่างที่ตำรวจไม่สามารถทำได้
เทคโนโลยีจดจำใบหน้า ได้กลายมาเป็นสิ่งที่ระบอบเผด็จการทั่วโลกให้ความสนใจ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอิหร่านอาจซื้อเทคโนโลยีดังกล่าวจากบริษัท Tiandy ซึ่งเป็นผู้ผลิตและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบกล้องวงจรของจีน ที่เพิ่งถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรไปเมื่อเดือนที่แล้ว เพราะมีบทบาทในการกดขี่ชาวมุสลิมอุยกูร์และใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในสหรัฐฯ ไปขายให้กับกองกําลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ผู้นําอิหร่านยังได้กล่าวถึงบทลงโทษรูปแบบใหม่สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎการสวมฮิญาบและการแต่งกาย โดยพวกเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีใหม่นี้ จะช่วยให้คนปฏิบัติตามกฎหมาย และอาจช่วยให้ลดการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงเช่นกัน
อ้างอิงจาก