เชื่อว่าพ่อแม่ของหลายๆ คน มักจะชวนให้เราไปเยี่ยมปู่ย่าตายายทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ถ้าเราไม่ต้องการไปหาพวกเขาละ จะเป็นอย่างไร? เมื่อศาลยุติธรรมสูงสุดในอิตาลี ตัดสินให้ ‘เด็กไม่จำเป็นต้องไปพบปู่ย่าตายายได้ ถ้าพวกเขาไม่ต้องการ’
คำตัดสินนี้ สืบเนื่องมาจากการยื่นอุทธรณ์ของพ่อแม่ของเด็กทั้งสองคน ต่อคำตัดสินก่อนหน้านี้ของศาลเยาวชนในมิลานเมื่อปี 2019 ที่กำหนดว่า ‘เด็กทั้งสองคนต้องใช้เวลากับปู่ย่าตายายของพวกเขา’ หลังจากที่ปู่และย่า กล่าวหาว่าพ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนเป็น ‘อุปสรรค’ ที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาติดต่อกับหลานได้
ซึ่งภายใต้กฎหมายในปี 2006 ของอิตาลีระบุว่า ปู่ย่าตายายสามารถร้องขอต่อศาลให้ไต่สวนได้ว่า การที่พ่อแม่ของหลานๆ กีดกันไม่ให้พบเจอกับพวกเขา ถือว่าเป็นการบังคับที่อันตรายต่อสวัสดิภาพของเด็กหรือไม่
และถ้าหากศาลตัดสินว่า เป็นการละเมิดสวัสดิภาพของเด็กจริง ศาลก็สามารถสั่งให้ผู้ปกครองจำเป็นต้องอนุญาตให้บุตรหลานพร้อมกับนักสังคมสงเคราะห์ไปเยี่ยมปู่ย่าตายายเป็นประจำได้
กฎหมายนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กที่พ่อแม่หย่าร้างกัน จะยังคงรักษาความสัมพันธ์กับปู่ย่าตายายของพวกเขาไว้อยู่ เช่น พ่อไม่ให้ลูกไปเยี่ยมคุณยายเพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็น เนื่องจากตัวคุณพ่อเลิกกับแม่ของเด็กไปแล้ว ดังนั้น ในกรณีนี้คุณยายของเด็กสามารถยื่นเรื่องต่อศาลได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากคำตัดสินของศาลยุติธรรม ทำให้เด็กทั้งสองไม่จำเป็นต้องไปพบกับปู่ย่าของพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่ต้องการได้แล้ว โดยคำตัดสินของศาลยังระบุอีกว่า เด็กๆ จะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยจากความสัมพันธ์ที่มีความขัดแย้งกันในครอบครัว เพราะทั้งสองคนต่างแสดงความไม่พอใจที่ถูกบังคับให้ไปพบกับปู่และย่าของพวกเขา ตามคำสั่งของศาลเยาวชน
นอกจากนี้ คำตัดสินของศาลยุติธรรมยังระบุอีกว่า เด็กควรมีสิทธิในการตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ถ้าเด็กไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับ ‘ความสัมพันธ์ที่เด็กไม่พึงปรารถนาและไม่พึงประสงค์’ โดยศาลยุติธรรมยัง กล่าวเสริมอีกว่า เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปีสามารถแยกแยะได้ว่าพวกเขาต้องการรักษาความสัมพันธ์กับปู่ย่าตายายหรือไม่ ถ้าพวกเขาไม่ต้องการ ปู่ย่าตายายก็ไม่มีสิทธิ์จะไปบังคับพวกเขาได้
คริสติน่า มักกิอา (Cristina Maggia) ประธานศาลชั้นต้นเมืองเบรชชา ในอิตาลี แสดงความคิดเห็นต่อคดีนี้ว่า “เด็กๆ สามารถคงความสัมพันธ์กับปู่ย่าตายายหรือสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวได้ ถ้าหากความสัมพันธ์เหล่านี้ส่งผลดีต่อตัวเด็กเอง”
เธอยังกล่าวเสริมว่า “ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น ความสัมพันธ์จะถูกกำหนดโดยเด็กๆ ทันที ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามก็ไม่มีสิทธิที่จะไปบังคับเด็กให้คงความสัมพันธ์กับพวกเขาไว้ได้’
ดังนั้น หลังการตัดสินในคดีนี้ ส่งผลให้คดีใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องของปู่ย่าตายายหรือสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว เพื่อต้องการพบเจอหลานๆ ของพวกเขา จะต้องถูกตรวจสอบโดยพิจารณาจาก ‘ความต้องการของเด็กๆ ก่อนเสมอ’
อ้างอิงจาก