เชื่อว่าหลายคนคงเห็นข่าวที่สหรัฐฯ ยิงบอลลูนของจีน หรือวัตถุที่ยังไม่สามารถระบุได้เป็นระยะๆ ในช่วงนี้ แต่รู้ไหมว่า อดีตก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่กองทัพเรือสหรัฐฯ สั่งยิงบอลลูนปริศนามาแล้ว แต่ปรากฎว่าจริงๆ แล้วมันคือ ดาวศุกร์ ต่างหาก!
สถาบันทหารเรือสหรัฐอเมริกา (US Naval Institute) ออกมาแชร์เรื่องราวขององค์กรตัวเอง หลังการค้นพบบอลลูนของจีนช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ในปี 1941 หรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กัปตันเรือ USS New York ค้นพบวัตถุทรงกลมสีเงิน หมุนวนบนท้องฟ้า เลยออกคำสั่งให้ลูกเรือยิงมัน เพราะเขาเชื่อว่าเป็น “บอลลูนระเบิดของญี่ปุ่น”
แลนโซ บี ดิทโท (Lanson B. Ditto) ลูกเรือที่ประจำการอยู่บนเรือ เล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า “ประมาณเที่ยงของวันที่ 9 ธันวาคม 1941 พวกเรากำลังแล่นเรือไปทางใต้ แต่เมื่อมีคนพบเห็นวัตถุดังกล่าว พวกเราเลยรีบเปิดฉากยิงในจุดที่คิดว่าเป็นระยะความสูงของของมัน คือ 1,524 เมตร และเมื่อเราเห็นว่ามันกำลังพุ่งเข้ามา จึงปรับระดับการยิงให้สูงขึ้นเป็น 2,286 เมตร ท้ายสุดเราปรับความสูงถึง 3,048 เมตร”
อย่างไรก็ดี พวกเขาตระหนักได้ว่าไม่สามารถยิงให้มันตกลงมาได้สักที และในขณะเดียวกัน มีเสียงพูดแทรกขึ้นมาว่า “มันคือดาวศุกร์” ดิทโทกล่าว
โดยดิทโทกล่าวปิดท้ายตลกๆ ว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้เห็นภาพถ่ายดาวเทียมของดาวศุกร์ และสังเกตเห็นล่องรอยคล้ายรู งั้นบางทีพวกเราอาจจะยิงโดนเป้าหมายก็ได้”
อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไป หลายคนในโลกอินเทอร์เน็ตต่างแสดงความคิดเห็นไปในเชิงล้อเลียนว่า “การสู้รบครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด เพราะดาวศุกร์ไม่มาเยือนน่านฟ้าของสหรัฐฯ อีกเลย” หรือ “ถือเป็นการรบนอกโลกครั้งแรกของกองทัพสหรัฐฯ” และ “จะยิงถึงได้ยังไง ดาวศุกร์อยู่ห่างจากโลกตั้ง 82 ล้านกิโลเมตร”
แต่ถึงกระนั้น บอลลูนระเบิดของญี่ปุ่นก็มีอยู่จริงๆ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมันถูกค้นพบครั้งแรก ขณะที่มันลอยอยู่เหนือรัฐมอนทานา (Montana) สหรัฐฯ อันเป็นสถานที่เดียวกับที่ค้นพบบอลลูนสอดแนมของจีนเมื่อไม่นานมานี้
นอกจากนี้ มีรายงานว่าญี่ปุ่นปล่อยบอลลูนดังกล่าวเกือบ 10,000 ลูก ระหว่างปี 1944-1945 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน เพราะมีบอลลูนบางส่วนลอยตกลงมา จนเกิดการระเบิด และเพลิงไหม้ขึ้น จนกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ต้องรีบออกแถลงการณ์ให้ “ประชาชนห้ามแตะต้องวัตถุต้องสงสัยเด็ดขาด”
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ร้องขอให้สื่อต่างๆ งดรายงานข่าวเกี่ยวกับบอลลูนของญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้ชาวญี่ปุ่นทราบว่า บอลลูนลอยเข้ามาในแผ่นดินของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ ทำให้ไม่นานบอลลูนเหล่านี้ก็หายไปก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงไม่นาน
อ้างอิงจาก