นับเป็นเหตุไฟป่าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ ในรอบกว่า 100 ปีไปแล้ว สำหรับไฟป่ารัฐฮาวายที่จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 93 คน และสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากถูกไฟเผาวอด จนเจ้าหน้าที่รัฐขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวให้เลี่ยงเดินทางไป เนื่องจากโรงแรมจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้รองรับผู้ประสบภัยหลายพันคน
สำหรับไฟเหตุไฟป่าฮาวาย ของสหรัฐฯ จนมีการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตเบื้องต้นวันนี้ (14 สิงหาคม) ว่ามีอย่างน้อย 93 คน และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก เพราะยังทำการตรวจสอบได้เพียงบางจุด ขณะที่อาคารบ้านเรือนเสียหายมากกว่า 2,200 คาดว่ามูลค่าความเสียหายสูงถึง 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (190,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว
สำนักงานการท่องเที่ยวฮาวาย ระบุว่า ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนประมาณ 46,000 คนเดินทางออกจากเมาวีตั้งแต่ช่วงต้น และอีกไม่นานทรัพยากรในรัฐ รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องมุ่งเน้นไปที่การฟื้นตัวของผู้อยู่อาศัย ที่ถูกบังคับให้อพยพออกจากบ้านและกิจการของพวกเขาก่อนหน้านี้
นั่นถึงเป็นที่มาของแถลงการณ์ ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว ให้เลี่ยงการเดินทางไปเมาวี แต่ยังสามารถไปเยี่ยมชมเกาะอื่นๆ ของฮาวายได้
ตามแผนงานช่วงต้น โรงแรมในเมืองจะใช้ดูแลสองส่วน คือ คนในพื้นที่ซึ่งประสบเหตุ และอีกส่วนจัดเตรียมไว้สำหรับพนักงานจากสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลาง แต่โรงแรมบางแห่งก็จะดำเนินธุรกิจตามปกติ เพื่อช่วยรักษางานและรักษาเศรษฐกิจในท้องถิ่นเอาไว้
ทั้งนี้ รัฐยังต้องทำงานร่วมกับ Airbnb เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้คนในท้องถิ่นจะสามารถหาบ้านเช่าในระยะสั้นได้
จนถึงตอนนี้สาเหตุของไฟป่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ชาวเมืองต่างวิจารณ์ถึงมาตรการรับมือ เพราะจำนวนมากแจ้งว่าไม่มีการแจ้งเตือนในตอนที่เกิดเหตุ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประสบปัญหาไฟฟ้าดับทำให้ระบบแจ้งเตือนไม่ทำงาน จึงไม่มีเสียงสัญญาณไซเรนดัง ทั้งนี้คาดว่าปัจจัยที่ทำให้ไฟลาม จนนักผจญเพลิงที่มีอยู่เพียงไม่เกิน 65 คนรับมือไม่ทัน ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาภัยแล้ง และลมแรงจากพายุเฮอริเคนที่ฮาวายเจออยู่
สำหรับรัฐฮาวายนั้นประกอบด้วยเกาะใหญ่ถึง 8 แห่ง ซึ่งเกาะเมาวีที่เกิดเหตุถือเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของหมู่เกาะฮาวาย และอันดับที่ 17 ในสหรัฐฯ
อ้างอิงจาก