แม้ว่า Gen Z จะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของวิถีใหม่ๆ หลายอย่างทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต แต่แท้จริงแล้วชาว Gen Z กำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพ ไม่ต้องไปพูดถึงการสร้างความมั่นคงในชีวิต แค่เอาตัวให้รอดวันนี้และพรุ่งนี้ก่อนคุณน้า!
ความเจ็บปวดนี้ ถูกรายงานจากงานวิจัยชิ้นใหม่ที่เพิ่งเผยแพร่โดย TransUnion ซึ่งระบุว่า ปัจจุบัน Gen Z พบเจอความยากลำบากทางการเงินมากกว่ากลุ่มมิลเลนเนียน (Millennials) ในช่วงวัยเดียวกันหรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการสำรวจ Gen Z จำนวน 614 คน ที่อายุระหว่าง 22-24 ปี และกลุ่มมิลเลนเนียนจำนวน 623 คน อายุระหว่าง 22-24 ปี แต่เป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รวมถึงการประเมินข้อมูลเครดิบูโรของ Gen Z ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2566 และของมินเลนเนียนในช่วงที่พวกเขาอายุ 22-24 ปี
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าค่าครองชีพจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ แต่ชาว Gen Z ณ ปัจจุบันก็มีรายได้ลดลงและมีอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้สูงกว่าชาวมินเลนเนียมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
อ้างอิงจากงานวิจัยชาว Gen Z มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 45,493 ดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลไตรมาส 4 ของปี 2566 แต่เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อแล้ว ชาวมินเลนเนียมเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีรายได้ 51,852 ดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลไตรมาส 4 ของปี 2556 ขณะที่ Gen Z มีอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้อยู่ที่ 16.05% แต่มินเลนเนียมเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีอัตราส่วนหนี้สินอยู่ที่ 11.76%
งานวิจัยชิ้นนี้สะท้อนถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อ Gen Z ขณะที่ยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตของ Gen Z โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,834 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วของมินเลนเนียมที่ 2,248 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า Gen Z มีความเครียดเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของตัวเองมากกว่ากลุ่มมินเลนเนียมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดย 14% บอกว่าพวกเขาเครียดมาก ขณะที่มินเลนเนียมเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ ‘เครียดมาก’ กับสถานะทางการเงินตัวเองมีแค่ 8% เท่านั้น
ขณะที่รายงานจาก Bankrate ระบุว่า กว่า 38% ของชาว Gen Z บอกว่าพวกเขาเผชิญกับความยากลำบากในการสร้างความมั่นคงทางการเงินมากกว่าที่พ่อ-แม่พวกเขาเผชิญในช่วงวัยเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัญหาเศรษฐกิจ
และเมื่อค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ Gen Z บอกว่าชีวิตพวกเขามีแต่ความเร่งรีบมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ ในความพยายามที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายรายเดือน ขณะที่ก็มีเงินออมในอนาคตน้อยลง
อ้างอิงจาก