นักวิจัยเผยว่า ปัญหาสุขภาพและภาวะสมองล้า (Brain fog) จากอาการลองโควิดอาจยังคงเป็นปัญหาต่อไปอีกหลายปี โดยผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรค COVID-19 ในช่วงที่เริ่มต้นการระบาด ซึ่งหลังจากนั้นผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรงมากขึ้น หรืออาจมีอาการต่อเนื่องหลังผ่านระยะเวลาไปแล้ว 1 ปี
นักวิจัยพบว่า แม้ว่าผู้ป่วย COVID-19 จำนวนไม่น้อยจะดีขึ้นตามเวลา แต่ผู้ป่วยจำนวนมากก็ยังคงมีปัญหาต่างๆ ในอีก 2-3 ปีต่อมา และพบว่าอาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเหนื่อยล้ากลับย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ แทนที่มันจะเบาลง
นักวิทยาศาสตร์ศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 475 รายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก่อนที่จะมีวัคซีนป้องกันโควิดออกมา เพื่อเรียนรู้ภาวะสมองล้า ความเหนื่อยล้า และปัญหาสุขภาพจิตว่ายังคงมีอยู่หรือเกิดขึ้นจากปีแรกหรือไม่
แม้ว่านักวิจัยจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับทักษะการคิดของผู้เข้าร่วมการศึกษาก่อนจะติดเชื้อ COVID-19 แต่การทดสอบการรับรู้ในอีก 2-3 ปีต่อมา แสดงให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้ว IQ ของผู้ป่วยต่ำกว่าที่คาดไว้ 10 คะแนน สำหรับอายุ การศึกษา และปัจจัยอื่นๆ
โดยผู้ป่วย 1 ใน 9 ราย แสดงอาการของความบกพร่องทางการรับรู้อย่างรุนแรง ซึ่งเท่ากับ IQ ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 30 คะแนน
แบบสอบถามที่ผู้เข้าร่วมตอบแสดงให้เห็นว่า หลายคนรู้สึกซึมเศร้าในระดับปานกลางถึงรุนแรง 47% รู้สึกอ่อนล้า 40% และวิตกกังวล 27% เป็นเวลา 2-3 ปีหลังจากติดเชื้อโควิด ทว่าแทนที่จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อาการกลับแย่ลง
แม็กซ์ ทาเกต์ (Max Taquet) ผู้วิจัยกล่าวว่า สิ่งที่เรารู้ก่อนทำการศึกษาก็คือ COVID-19 มีความเสี่ยงต่อปัญหาทางปัญญา ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวลมากกว่าการติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ โดยเราพบว่าผู้ที่เข้าร่วมการวิจัย มีภาระทางจิตและประสาทที่สำคัญภายใน 2-3 ปีหลังการติดเชื้อ
ผู้เข้าร่วมการศึกษามากกว่า 1 ใน 4 คนเปลี่ยนอาชีพหลังจากติดเชื้อไวรัส โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถรับมือกับทักษะทางสติปัญญาที่ขาดหายไปจากงานที่ตัวเองทำได้อีกต่อไป
แม้ว่าสัดส่วนของผู้ป่วยที่รายงานภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และเหนื่อยล้าจะเพิ่มขึ้นหลังจากหกเดือน แต่ปัญหาทางสติปัญญาดูเหมือนจะดีขึ้น โดย 6 เดือนหลังจากติดเชื้อ ผู้ป่วย 44% มีอาการบกพร่องทางปัญญาโดยชัดเจน เมื่อเทียบกับ 33% ในช่วง 2-3 ปี
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ติด COVID-19 ในช่วงหลังการระบาด หลังจากฉีดวัคซีน และไม่ได้เข้ารักษาในโรงพยาบาล จะประสบปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรงเช่นเดียวกันหรือไม่
อ้างอิงจาก