‘อิสมาอิล ฮานิเยห์’ (Ismail Haniyeh) ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ถูกสังหารขณะพำนักอยู่ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน การโจมตีครั้งนี้ทำให้เกิดวลีข่มขู่มากมายถึงการล้างแค้น ซึ่งนั่นทำให้ความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งในฉนวนกาซา ที่อาจลุกลามกลายเป็นสงครามตะวันออกกลาง
กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ปาเลสไตน์และกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านยืนยันการเสียชีวิตของฮานิเยห์ โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่เขาเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน
แม้ว่าการโจมตีจะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล แต่รัฐบาลอิสราเอลที่นำโดยเบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) ก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการสังหารครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ฮานิเยห์ถูกสังหารด้วยขีปนาวุธที่ยิงใส่เขาแบบจังๆ ในเกตส์เฮาส์ของรัฐที่เขาพักอยู่ โดยอ้างคำบอกเล่าของพยานที่อยู่กับฮานิเยห์
โดยปกติแล้วฮานิเยห์อาศัยอยู่ในกาตาร์ และถือเป็นหน้าเป็นตาของฝ่ายการทูตระหว่างประเทศของกลุ่มฮามาส ขณะที่สงครามในฉนวนกาซาที่จุดชนวนโดยกลุ่มฮามาส ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2565 ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบันอย่างดุเดือด ฮานิเยห์เองก็มีส่วนร่วมในการเจรจาเกี่ยวกับ ‘ข้อตกลงหยุดยิงในปาเลสไตน์’ เช่นกัน
แม้ว่าอิสราเอลจะไม่ได้ออกแถลงการณ์อะไรเกี่ยวกับการสังหารในวันพุธ แต่ก็บอกว่า อิสราเอลได้ทำการโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อกลุ่มต่างๆ ของอิหร่านในช่วงนี้ ซึ่งรวมถึงกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ด้วย และจะตอบโต้อย่างแข็งขันต่อการโจมตีใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น
การสังหารในครั้งนี้ นำไปสู่การยุติข้อตกลงหยุดยิง? – เหมือนการสังหารผู้นำฮามาสครั้งนี้จะทำให้ ‘โอกาส’ ในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ‘ลดลง’
กลุ่มฮามาสบอกภายหลังการสังหารนี้ว่า จะยกระดับการต่อสู้ไปสู่มิติใหม่และมันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับอิหร่านที่ประกาศว่าจะตอบโต้และประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่ก็กล่าวหาสหรัฐฯ ด้วยว่าต้องแสดงความรับผิดชอบ จากการสนับสนุนอิสราเอล
โลกกำลังแสดงออกอย่างไร?
ในตุรกี กลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์หลายพันคนเดินขบวนไปตามถนนในใจกลางเมืองอิสตันบูล เพื่อประท้วงเหตุการณ์สังหารฮานิเยห์ ขณะที่ในเขตฟาติห์ ของอิสตันบูล ผู้ประท้วงรายหนึ่งถือโปสเตอร์รูปฮานิเยห์ พร้อมกับตะโกนว่า ‘ฆาตกรอิสราเอล ออกไปจากปาเลสไตน์’ และโบกธงชาติตุรกีและปาเลสไตน์
ในสหรัฐฯ รัฐบาลได้มีการแสดงความกังวลเกี่ยวกับการยกระดับสถานการณ์ ทว่า จอนห์ เคอร์บี้ (John Kirby) โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังไม่เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในทันทีหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกำลังดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
เคอร์บี้ กล่าวว่า ขณะนี้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และไม่ได้ทำให้ภารกิจในการลดระดับสถานการณ์ การข่มขู่ และการยับยั้งมีความซับซ้อนน้อยลงแต่อย่างใด สหรัฐฯ แนะนำให้พลเมืองไม่เดินทางไปเลบานอน โดยสายการบินของสหรัฐฯ สองสาย ได้แก่ ยูไนเต็ดและเดลต้า ได้ระงับเที่ยวบินไปเทลอาวีฟ
การแก้แค้น
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของอิหร่านที่จะต้องแก้แค้นให้กับการเสียชีวิตของฮานิเยห์ ซึ่งกองกำลังอิหร่านได้โจมตีอิสราเอลโดยตรงไปแล้วก่อนหน้านี้ในสงครามกาซา
ด้านนักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ฮามาสกล่าวว่า ผู้สืบทอดตำแหน่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของฮานิเยห์คือ คาลิด เมชาล (Khaled Meshaal) ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกาตาร์
เดวิด เมนเซอร์ (David Mencer) โฆษกรัฐบาลอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลมุ่งมั่นที่จะเจรจาหยุดยิงในกาซาและให้ปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์จับตัวไว้ในกาซา
ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงการตอบคำถามเกี่ยวกับการสังหารฮานิเยห์ โดยกล่าวว่า ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงการเพิ่มระดับความรุนแรงในภูมิภาค โดยสหรัฐฯ ไม่ได้รับรู้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารดังกล่าว
บรรยากาศชาวเมืองกาซาที่ถูกล้อมก็หวั่นว่าการเสียชีวิตของฮานิเยห์จะทำให้การสู้รบยืดเยื้อออกไป
อ้างอิงจาก