ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี วันนี้ (7 สิงหาคม) จึงเริ่มปรากฏความเคลื่อนไหวทางฝั่งพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า รวมถึง ‘พรรณิการ์ วานิช’ โฆษกคณะก้าวหน้า
“วันนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ผู้มีอำนาจในประเทศนี้ได้ตัดสินใจแล้วว่า พรรคก้าวไกลและการคงอยู่ของพรรคก้าวไกลเป็นสิ่งที่สั่นคลอนต่อการคงอยู่ของอำนาจของพวกเขา” พรรณิการ์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่อาคารอนาคตใหม่
“วันนี้พวกเขาได้ตัดสินใจแล้ว และมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า จะไม่ปล่อยให้ภัยคุกคามต่ออำนาจของพวกเขาคงอยู่ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเห็นจากคำวินิจฉัยที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในการยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหารเป็นเวลา 10 ปี
“แต่นั่นคือคำวินิจฉัยและการตัดสินใจของผู้มีอำนาจประเทศนี้ ที่เขาคิดว่าเขามีอำนาจสูงสุดในประเทศ
“พวกเขาไม่รู้ตัวว่า ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ใช่พวกเขา พวกเขาไม่รู้ตัวว่า ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้คือประชาชน
“วันนี้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้พรรคก้าวไกลไปต่อ แต่สิ่งที่พวกเรากำลังรอฟัง และกำลังน้อมรับฟัง ก็คือคำวินิจฉัยจากประชาชน วันนี้อยากฟังว่า ประชาชนตัดสินใจอย่างไร ประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง มีความหวัง และความฝันแบบเดียวกับอนาคตใหม่ แบบเดียวกับก้าวไกล มีอยู่มากเท่าไหร่ในประเทศนี้
“วันนี้พวกเราทุกคนกำลังน้อมรับฟังเสียงจากประชาชนผู้เป็นอำนาจสูงสุดของประเทศ กำลังน้อมรับคำวินิจฉัยจากประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศนี้ อยากให้ทุกท่านเปล่งเสียงออกมาอย่างดัง อย่างชัด และอย่างมั่นใจในอำนาจของท่าน ในฐานะผู้มีอำนาจตัดสินใจ
“อยากฟังว่า พวกท่านอยากให้พวกเราไปต่อหรือไม่ หากอยากให้พวกเราไปต่อ แสดงออกมาซึ่งความต้องการของท่าน แสดงออกมาว่า วันนี้เรายังคงก้าวไปด้วยกัน มีความหวังและความฝันแบบเดียวกัน นั่นคือสิ่งที่อยากบอกกับประชาชนทุกคน”