เมื่อมีความรัก เราต่างคาดหวังว่าเราจะต้องได้เดินข้างกันในสักวัน ถึงจะเรียกว่า นี่สิ รักที่สมหวัง แต่เมื่อถึงตรงนั้นจริงๆ แล้ว เราอาจจะยังรู้สึกไม่พอ เรามีความคาดหวังต่างๆ เพิ่มขึ้นไปตามความสัมพันธ์ที่พัฒนาไป อย่างนั้นแล้ว เมื่อไหร่กันที่รักนี้จะได้ดั่งใจเรา?
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา เราได้ไปเติมแรงบันดาลใจในงาน MIND DAY ภูมิคุ้มใจ PRESENTED BY SHISEIDO อีเวนต์ฮีลใจ สร้างความเข้มแข็งจากภายใน กับเซสชั่นพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับแขกรับเชิญหลากหลายวงการในหลากหลายหัวข้อ ซึ่งหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจจนอยากเอามารีแคปอีกครั้ง เป็นของชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ศาสตราจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของแฮชแท็ก #ทวิตรัก และโฮสต์ PODCAST รายการ Open Relationship ในหัวข้อ เมื่อโลกไม่ได้ดั่งใจ
พูดถึงความรักที่ต้องเป็นไปตามกรอบสังคม เป็นกำแพงล้อมรัก ที่คอยชี้นำว่ารักแล้วต้องเป็นไปตามความคาดหวังที่เราถูกสังคมคาดหวังมาอีกครั้งหนึ่ง หลายคนจึงเลือกเชื่อฟังกติกาสังคม อย่างการเลือกรักตามเพศที่สังคมเห็นดีเห็นงาม รักและผนวกรวมเอาเซ็กซ์เข้าไปด้วย แต่หลายครั้งกติกาเหล่านั้นที่เราเชื่อ ทำตาม เพราะมองว่าถูกต้อง กลับไม่ได้มอบความสุขในรักให้เราอย่างที่คิด
ทว่าก็ยังมีหลายคนที่เลือกสู้กับกติกา เพราะเชื่อว่าเราจะเป็นสุข เมื่อใดที่ละเมิดกติกานั้นแล้วถูกสังคมลงโทษ ก็รู้สึกเหมือนโดนลดทอนความสุขในรักนั้นลง สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเชื่อฟังหรือละเมิดกติกา เราต่างล้วนเจ็บปวดทั้งสิ้น และหนึ่งประโยคจี๊ดใจจากเวทีนี้ คือ “ความรักมันจูงมือความทุกข์มาด้วย และยืนคู่กันเสมอ” ยิ่งตอกย้ำว่าเราไม่อาจเลี่ยงความเสียใจในวังวนรักนี้ได้เลย
เมื่อรู้แล้วว่ารักไม่ได้ดั่งใจ ขอให้ทำใจว่าในทุกรักจะมีสิ่งไม่ได้ดั่งใจเราเสมอ อาจเป็นทั้งกรอบสังคม ตัวเรา หรือแม้แต่คนรักของเราเอง เพื่อจะอยู่กับความรักนั้นให้ได้ เราก็ต้องยอมอยู่กับทั้งสิ่งที่ได้ดั่งใจและไม่ได้ดั่งใจให้ได้ อีกหนึ่งประโยคที่ช่วยสะกิดให้เราหันมามองความจริงที่ว่า “ความรักที่สมบูรณ์แบบ คือการได้ดั่งใจทุกประการ กรุณารอต่อไป เพราะมันไม่มีอยู่จริง”
แต่ถ้ารู้สึกว่าการอดทนกับความไม่ได้ดั่งใจนั้นมันช่างสาหัสเกินกว่าจะแบกรับต่อไปได้แล้ว นั่นอาจถึงเวลาที่เราต้องพิจารณาปล่อยมือจากความรักนั้นไปเช่นกัน