การเลือกตั้งสหรัฐฯ เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว ซึ่งแต่ละฝั่งก็เริ่มทวีความเข้มข้นในการหาเสียงเรื่อยๆ โดยล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ได้ไปหาเสียงที่ เมดิสัน สแควร์ การ์เดน ในเมืองนิวยอร์ก ซึ่งเขาได้กล่าวหาเสียง ด้วยการโจมตีผู้อพยพอย่างชัดเจน
‘อาชญากรที่โหดร้าย และกระหายเลือด’ คือสิ่งที่ทรัมป์เรียก ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ (Irregular Migrant) โดยหนึ่งในประเด็นที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักคือ นโยบายต่อผู้อพยพของทรัมป์ ซึ่งเขาย้ำว่า “ในวันแรก (หลังชนะการเลือกตั้ง) ผมจะเริ่มโครงการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา” พร้อมเสริมว่า “ผมจะช่วยเหลือเมืองทุกแห่ง ที่ถูกบุกรุกและยึดครอง”
“ตอนนี้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ถูกยึดครอง แต่ในไม่ช้านี้ ก็จะไม่ใช่ประเทศที่ถูกยึดครองอีกต่อไป ในอีก 9 วันข้างหน้านี้ จะเป็นวันแห่งการปลดปล่อยอเมริกา” ทรัมป์กล่าว
ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงต้นของการหาเสียง โทนี่ ฮินช์คลิฟฟ์ นักแสดงตลกผู้ร่วมการปราศรัย ได้หยอกล้อว่าชาวลาตินอเมริกามีลูกมากเกินไป เพราะพวกเขา ‘ชอบทำลูก’ และเรียกประเทศเปอร์โตริโกว่า ‘เกาะขยะลอยน้ำ’ ทั้งนี้มีประชากรเปอร์โตริโกอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ จำนวนมาก โดยคาดการณ์ว่า ในรัฐเพนซิลเวเนีย มีชาวเปอร์โตริโก อาศัยอยู่ถึง 500,000 คน
การหยอกล้อข้างต้น ได้สร้างความกังวลให้หลายฝ่าย เนื่องจากอาจสะท้อนการเหยียดเชื้อชาติ ที่สามารถเชื่อมโยงกับ นโยบายที่เข้มงวดต่อผู้อพยพของทรัมป์ได้ อย่างไรก็ตาม ดาเนียล อัลวาเรซ โฆษกแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ การหยอกล้อของฮินช์คลิฟฟ์ “ไม่ได้สะท้อนมุมมองของประธานาธิบดีทรัมป์หรือแคมเปญหาเสียง”
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังโจมตีคู่แข่งอย่าง กมลา แฮร์ริส ด้วยการเรียกเธอว่าเป็น ‘บุคคลที่มี IQ ต่ำมาก’ และกล่าวว่าเธอได้รับคะแนนเสียง จากผู้ที่ไม่สนับสนุนนโยบายผู้อพยพอันเข้มงวดของเขา ทั้งนี้เขาระบุอย่างตรงไปตรงมา ว่าพรรคเดโมแครตเป็น ‘ศัตรูจากภายใน’
ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แคนดิเดตจากทั้งพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต ต่างหาโอกาสทำคะแนนกันอย่างดุเดือด และทุกก้าวล้วนมีผลต่ออนาคตของสหรัฐฯ ดังนั้นการปราศรัยครั้งนี้ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง อาจส่งผลต่อทิศทางของการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
อ้างอิงจาก