จากกรณีที่เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่แคว้นบาเลนเซียของสเปน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้กว่า 200 ราย สร้างความไม่พอใจในหมู่ประชาชนชาวบ้านที่ตำหนิการทำงานที่ล่าช้าของรัฐ
แต่ล่าสุดความโกรธแค้นได้กระจายวงกว้างขึ้น หลังจากที่ ชาวบ้านได้ตะโกนโห่ร้องและปาไข่ใส่กษัตริย์เฟลิเปและราชินีเลติเซียแห่งสเปน ขณะเสด็จเยือนแคว้นบาเลนเซีย ซึ่งเป็นผลมาจากที่รัฐบาลสเปนแจ้งเตือนถึงอันตรายจากน้ำฉับพลันล่าช้า ประกอบกับความช่วยเหลือจากหน่วยงานฉุกเฉินที่ล่าช้าด้วยเช่นกัน
“ฆาตกร” สิ่งที่ชาวบ้านตะโกนใส่กษัตริย์ ขณะที่กำลังเสด็จไปเยือนยังเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในบาเลนเซีย ซึ่งชาวบ้านได้ตำหนิความล่าช้าของรัฐบาลในขณะที่ก็ขว้างปาสิ่งของใส่กษัตริย์และราชินีไปด้วย
กษัตริย์เฟลิเปมีท่าทีสงบนิ่ง ขณะที่ราชินีเองได้พูดคุยกับชาวบ้านที่โกรธแค้นและมีอาการกลัวอย่างเห็นได้ชัด ทว่าช่องโซเชียลมีเดียของราชวงศ์เผยแพร่ให้เห็นภาพกษัตริย์และราชินีโอบกอดชาวบ้านที่กำลังร้องไห้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ถือเป็นเรื่องแปลกที่กษัตริย์สเปนจะเผชิญกับความโกรธของประชาชนที่รุนแรงเช่นนี้อย่างใกล้ชิด เฟลิเปเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง ซึ่งขึ้นครองบัลลังก์หลังจากการสละราชสมบัติของพระบิดา
ขณะนี้มีการยืนยันแล้วว่ามีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้วอย่างน้อย 214 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดคือหญิงวัย 70 ปี ซึ่งพบศพอยู่ห่างจากบ้านของเธอมากกว่า 12 กิโลเมตร
การตอบสนองที่ล่าช้าและไม่ประสานงานกันต่อวิกฤตการณ์ครั้งนี้ทำให้หลายคนในบาเลนเซียโกรธแค้น ขณะที่การแจ้งเตือนทางข้อความเกิดขึ้นก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาสเปนออกคำเตือนเรื่องน้ำท่วม
ในขณะเดียวกัน อาสาสมัครหลายพันคนตอบรับคำร้องขอความช่วยเหลือจากจังหวัดดังกล่าวเพื่อลงพื้นที่เคลียร์เศษซากจากน้ำท่วม แต่ดูเหมือนเหล่าเจ้าหน้าที่จะไม่พร้อมและทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ เสบียงก็หมดอย่างรวดเร็ว และต้องหารถบัสเพิ่มเติมเพื่อขนส่งผู้คนด้วย
กลุ่มอาสาสมัครรออยู่หลายชั่วโมงแต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธ ทำให้หลายๆ คนหงุดหงิด โดยอาสาสมัครวัย 18 ปี บอกกับ CNN ว่า เขามาก่อน 7 โมงเช้าเพื่อขึ้นรถบัสอาสา ซึ่งมันน่าหงุดหงิดมากที่รัฐบอกว่าไม่ใช่ความผิดของพวกเขา ซึ่งพวกทหารและตำรวจให้ความช่วยเหลือได้ไม่มากเท่าที่คาดหวัง และอีกอย่างคือพวกเขา (ทหาร-ตำรวจ) ก็มาช้าไปหลายวัน
อ้างอิงจาก