หมายเหตุ: ข่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับการข่มขืน และเนื้อหาที่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
.
จีเซล เปลิโกต์ (Gisèle Pelicot) หญิงชาวฝรั่งเศสวัย 71 ปี ที่ถูกสามีวางยาและให้เพื่อนบ้านมาข่มขืนเธอกว่า 50 คนนานกว่า 10 ปี ออกมาประณามความขี้ขลาดของผู้ที่ข่มขืนเธอ โดยพวกเขาอ้างว่า พวกเขา ‘ไม่รู้ว่านั่นคือการข่มขืน’ โดยเปลิโกต์ยังบอกอีกว่า สังคมชายเป็นใหญ่ของฝรั่งเศสต้องเปลี่ยนแปลง
นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 เป็นต้นมา คดีของเปลิโกต์นั้นได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนกลับมาถกเถียงเรื่องความรุนแรงทางเพศ การใช้ยาเสพติด และตั้งคำถามว่า คำจำกัดความของ ‘การข่มขืน’ ในฝรั่งเศสนั้นหมายความว่าอย่างไร เรื่อง ‘ความยินยอม’ ควรเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า?
ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2024 ได้มีการพิจารณาคดีเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นโอกาสแก้ตัวครั้งสุดท้ายของทนายจำเลย ที่จะต้องโน้มน้าวใจผู้พิพากษาว่า โดมินิก เป็นฝ่ายที่หลอกล่อให้พวกเขาข่มขืนเธอในขณะที่เธอหมดสติ โดยชายหลายคนบอกว่า พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังข่มขืน ไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืน หรือโยนความผิดทั้งหมดให้สามีของเธอ และอ้างว่าเป็นผู้บงการพวกเขา
ฟิลิปป์ แอล (Philippe L) จำเลยคนสุดท้ายในบรรดาจำเลยทั้ง 50 คน กล่าวว่าเขารู้สึกประหลาดใจที่โดมินิกต้อนรับเขาเข้าบ้าน และยืนกรานให้เขาลวนลามจีเซล โดยเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาข่มขืน ให้เหตุผลว่า เขาละทิ้งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตนและ ‘ใช้อวัยวะเพศคิดแทนสมอง’ ไปแล้ว
“สำหรับฉัน นี่คือการพิจารณาคดีแห่งความขี้ขลาด ไม่มีทางอื่นใดที่จะอธิบายได้” จีเซลกล่าว พร้อมเสริมว่า มันไม่ควรจะมีข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับการทำร้ายเธอขณะที่เธอหมดสติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งนำวิดีโอไปเปิดในศาลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นภาพว่าเธอนอนนิ่งเฉย บางครั้งนอนกรนด้วยซ้ำ ขณะที่ผู้ต้องหาและสามีของเธอเข้ามาทำร้าย
จีเซล กล่าวต่อศาลว่า เธอโกรธผู้ต้องหา เพราะขณะที่จะลงมือก่อเหตุนั้น ผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่งอาจยุติความทุกข์ทรมานนี้ของเธอได้ทุกเมื่อ เพียงแค่พวกเขาแจ้งตำรวจ และกล่าวโทษสามีของเธอ
“พวกเขาต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง พวกเขาข่มขืน การข่มขืนก็คือการข่มขืน” จีเซล เปลิโกต์ กล่าว
นับตั้งแต่มีการกล่าวหา และการพิจารณาคีมาหลายครั้ง เธอยืนยันหนักแน่นถึงความต้องการของตนเองในการเปิดให้การพิจารณาเป็นสาธารณะ โดยบอกว่า เธอหวังว่าการพิจารณาคดีนี้จะช่วยให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ได้กล้าพูดออกมา และแสดงให้เห็นว่าผู้เป็นผู้เสียหายไม่มีอะไรต้องละอายใจ
“ถึงเวลาแล้วที่สังคมจะต้องมองสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่และชายเป็นใหญ่ และเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคดีข่มขืน” เธอบอกกับศาล พร้อมกล่าวว่า จะไม่มีวันให้อภัยสามีของเธอ
นอกจากในมุมมองของเปลิโกต์เอง ลูกชาย 2 คนของเปลิโกต์ได้ขอให้ศาลลงโทษเขาอย่างรุนแรง และยังกล่าวอีกว่าพวกเขาจะไม่มีวันให้อภัยเขา
และสำหรับ แคโรไลน์ ดาริอัน (Caroline Darian) ผู้เป็นลูกสาว กล่าวว่า เธอเชื่อว่าโดมินิกได้วางยาและทำร้ายเธอด้วย จากหลักฐานได้พบภาพเปลือยบางส่วนของแครไลน์ในแล็ปท็อปของผู้เป็นพ่อ โดยมีไฟล์ที่ตั้งชื่อว่า ‘ลูกสาวเปลือยของฉัน’
แต่โดนิมิกย้ำว่าเขาไม่ได้ทำร้ายแคโรไลน์ รวมถึงลูกหลานคนอื่นๆ ด้วย แต่ในขณะนั้นเอง ลูกสาวของเขาก็ได้ขัดจังหวะเขาจากห้องพิจารณาคดี โดยตะโกนว่าเขาเป็นคนโกหก
“คุณไม่มีความกล้าที่จะบอกความจริงเลย!” เธอร้องตะโกน “คุณโกหก ฉันเบื่อคำโกหกของคุณแล้ว คุณโกหกอยู่คนเดียว และคุณจะต้องตายไปพร้อมกับคำโกหกนั้น”
จากทั้งหมดนี้ ทำให้นางเปลิโกต์ถูกถามว่าทำไมเธอจึงยังคงใช้ชื่อของอดีตสามี ในขณะที่ลูกๆ ของเธอเองก็ใช้ชื่ออื่นไปแล้ว โดยเธอตอบว่า ลูกๆ ของเธอรู้สึกละอายใจกับชื่อนั้น แต่หลานๆ ของเธอยังคงใช้ชื่อว่าเปลิโกต์อยู่
“วันนี้ ฉันอยากให้พวกเขาภูมิใจในตัวคุณย่า” เธอกล่าว “ตอนนี้ชื่อของฉันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้ว พวกเขาไม่ควรรู้สึกละอายใจที่จะใช้ชื่อนั้น วันนี้เราจะจดจำ จีเซล เปลิโกต์”
หลังจากนี้ จะมีการพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นจุดสิ้นสุดลงของคดีนี้ และจะได้รู้ว่าการกระทำใดถือว่ามีความผิดตามกฎหมายบ้าง และใครบ้างที่จะถูกดำเนินคดีต่อไป
อ้างอิงจาก