ยีราฟ–สัตว์ที่สูงที่สุดในโลก ที่หลายๆ คนคงคุ้นเคย ไม่ว่าจะเห็นตามสวนสัตว์ หรือในสื่อทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้สัตว์สายพันธุ์นี้ กำลังประสบปัญหาประชากรลดลงอย่างน่าเป็นห่วง โดยที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรก ที่สหรัฐฯ เตรียมขึ้นบัญชียีราฟเป็น ‘สัตว์ใกล้สูญพันธุ์’
หลังจากที่พบว่า จำนวนยีราฟลดลงอย่างมาก ล่าสุดองค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐฯ (US Fish and Wildlife Service หรือ FWS) ได้เสนอให้ขึ้นบัญชีสัตว์ประเภทนี้ รวม 5 สายพันธุ์ย่อย ภายใต้กฎหมายคุ้มครองสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ยีราฟจะได้รับการคุ้มครอง ภายใต้กฎหมายฉบับดังกล่าว
แล้วทำไมจำนวนยีราฟ จึงลดลงอย่างมาก?
‘การลักลอบล่าสัตว์ การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ’ คือสาเหตุที่ FWS ระบุในแถลงการณ์ พร้อมเผยว่า นับตั้งแต่ปี 1985 ประชากรยีราฟเหนือ 3 สายพันธุ์ ลดลงถึง 77% หรือจาก 25,653 ตัว เหลือ 5,919 ตัว จนทำให้สัตว์สายพันธุ์นี้ สูญพันธุ์ไปแล้ว ในหลายประเทศ ของแอฟริกาตะวันตก
ทั้งนี้การลักลอบล่าสัตว์ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่น่ากังวลที่สุด โดยมีการลักลอบนำส่วนต่างๆ ของร่างกายยีราฟ ผลิตสินค้ามากมาย ตั้งแต่พรม เครื่องประดับ ปลอกหมอน รองเท้าหนัง เฟอร์นิเจอร์ จนถึงปลอกคัมภีร์ไบเบิล
ในขณะเดียวกัน หลายพื้นที่ในแอฟริกาก็เผชิญกับภัยแล้งบ่อยมากขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จนเกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง ทั้งต่อพืชผล ปศุสัตว์ และสัตว์ต่างๆ รวมถึงยีราฟ
“การดำเนินการนี้จะช่วยอนุรักษ์ยีราฟ และในขณะเดียวกันก็ทำให้มั่นใจได้ว่า สหรัฐฯ จะไม่ทำให้ ประชากรยีราฟลดลงต่อไปอีก” มาร์ธา วิลเลียมส์ (Martha Williams) ผู้อำนวยการ FWS กล่าว พร้อมบอกว่า “การคุ้มครองยีราฟของรัฐบาลกลาง จะช่วยปกป้องสายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ สนับสนุนสุขภาพของระบบนิเวศ ปราบปรามการค้าสัตว์ป่า และส่งเสริมแนวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน”
หากประกาศขึ้นบัญชีฯ แล้ว ผู้นำเข้าชิ้นส่วนใดๆ ของยีราฟ มายังสหรัฐอเมริกา จะต้องมีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ รวมถึงการขึ้นบัญชีฯ นี้จะช่วยสนับสนุนเงินทุน สำหรับการอนุรักษ์ยีราฟ นับเป็นอีกหนึ่งก้าว ของความพยายามอนุรักษ์สัตว์ป่า ท่ามกลางภัยคุกคามจากมนุษย์
อ้างอิงจาก