“หากแอปพลิเคชั่นนำทางพาเราไปประสบอุบัติเหตุ แอปฯ ควรจะรับผิดชอบหรือไม่?”
สิ่งนี้เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย หลังจากที่มีเหตุการณ์รถเสียหลักออกจากสะพานที่กำลังก่อสร้างและตกลงบนพื้นจนทำให้มีคนเสียชีวิต 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเชื่อว่า ‘Google Maps’ เป็นคนที่พาให้คนกลุ่มนี้ใช้เส้นทางนั้น
สะพานดังกล่าวถูกน้ำท่วม และพังทลายลงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แม้ว่าคนในพื้นที่จะรู้เรื่องนี้และหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านสะพาน แต่ชายทั้ง 3 คนมาจากพื้นที่อื่นและไม่รู้มาก่อนว่าสะพานไม่สมบูรณ์ ประกอบกับไม่มีป้ายเตือนว่าสะพานยังอยู่ระหว่างก่อสร้างด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุชื่อวิศวกร 4 คนจากกรมทางหลวง และเจ้าหน้าที่ 1 คนจาก Google Maps ในข้อกล่าวหาฆ่าคนโดยประมาท ขณะที่ทาง Google บอกว่า บริษัทกำลังให้ความร่วมมือในการสืบสวน
อุบัติเหตุที่น่าเศร้าครั้งนี้ ทำให้โครงสร้างพื้นฐานอย่าง ‘ถนน’ ของอินเดียซึ่งเป็นที่เลื่องลือว่าย่ำแย่ได้รับความสนใจ และจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันว่าแอปฯ นำทางอย่าง Google Maps ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่
บางคนตำหนิแอปฯ ว่าให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ขณะที่บางคนก็แย้งว่าเป็นเพราะรัฐบาลที่ไม่ยอมปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าว
Google Maps เป็นแอปฯ นำทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศอินเดีย โดยแอปฯ นี้มีผู้ใช้งานจริงประมาณ 60 ล้านคน และมีการค้นหาประมาณ 50 ล้านครั้งใน 1 วัน ทว่าแอปฯ นี้มักจะถูกตรวจสอบ เนื่องจากให้ข้อมูลเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งบางครั้งอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
ในปี 2021 ที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งจมน้ำเสียชีวิตหลังจากขับรถพุ่งลงไปในเขื่อน โดยตำรวจอ้างว่าเขาทำตามคำแนะนำของแอปฯ ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว แพทย์หนุ่มสองคนเสียชีวิตหลังจากขับรถลงไปในแม่น้ำ ซึ่งตำรวจบอกว่าพวกเขาขับรถตามเส้นทางที่แอปฯ แสดง และเตือนผู้คนไม่ให้พึ่งพาแอปฯ ดังกล่าวมากเกินไปในเวลาที่มีน้ำท่วมถนน
สัญญาณ GPS จากแอปฯ ของผู้ใช้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของการจราจรตามเส้นทาง โดยจะจับสัญญาณเพื่อแสดงข้อมูลการจราจรว่าแออัดหรือไม่ นอกจากนี้ แอปฯ ยังสามารถรับข้อมูลจากรัฐ และผู้ใช้ที่รายงานการจราจร หรือการปิดถนนได้ด้วย
ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มแผนที่ Potter Maps และอดีตพนักงานของ Google Maps กล่าวว่า การร้องเรียนเกี่ยวกับการจราจรติดขัด หรือที่ได้รับแจ้งจากทางการจะได้รับการพิจารณาก่อน เนื่องจาก Google ไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะจัดการกับการร้องเรียนนับล้านที่หลั่งไหลเข้ามาทุกวัน
“จากนั้นผู้ควบคุมแผนที่จะใช้ภาพถ่ายดาวเทียม Google Street View และการแจ้งเตือนของรัฐบาลเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงและอัปเดตแผนที่” เขากล่าว
อดีตพนักงาน Google Maps บอกอีกว่า แอปฯ นำทาง ‘ไม่สามารถ’ รับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากเงื่อนไขการให้บริการของแอปฯ ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า ผู้ใช้ต้องใช้วิจารณญาณของตนเองบนท้องถนน และข้อมูลที่แอปฯ แสดงอาจต่างจากสภาพจริง อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับแพลตฟอร์มในการจัดการแผนที่ทั่วโลก และต้องติดตามทุกการเปลี่ยนแปลงบนถนน
“ประกอบกับอินเดียยังไม่มีระบบรายงานปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ยังคงเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในอินเดีย เพราะพวกเขาไม่มีระบบบันทึกการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน” เขากล่าว
ขณะที่ทนายความคนหนึ่งเห็นต่างว่า แอปฯ จะต้องรับผิดชอบอุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจากพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ของอินเดีย ทำให้แพลตฟอร์มดิจิทัลเช่น Google Maps มีสถานะเป็น ‘ตัวกลาง’ (แพลตฟอร์มที่เพียงเผยแพร่ข้อมูลที่ให้มาโดยบุคคลที่สาม) จึงได้รับการคุ้มครองจากความรับผิดชอบ แต่หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าแพลตฟอร์มไม่ได้แก้ไขข้อมูล หากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันท่วงทีแล้ว แพลตฟอร์มก็อาจต้องรับผิดฐานประมาทเลินเล่อ
อ้างอิงจาก