อยากอายุยืนขึ้นไหม? การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 บน British Journal of Sports Medicine หรือวารสารเวชศาสตร์การกีฬา พบว่าชาวอเมริกันอายุมากกว่า 40 ปี ที่ออกกำลังกายมากที่สุดเป็น 25% แรกของประเทศ อาจมีอายุยืนยาวขึ้นถึง 5.3 ปี
แล้วงานวิจัยคำนวณความเชื่อมโยงระหว่างอายุขัย กับระดับการออกกำลังกายได้อย่างไร?
สำหรับการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลหลายส่วน โดยส่วนแรก ได้อ้างอิงข้อมูลอัตราการเสียชีวิตในสหรัฐฯ ปี 2017 จากศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติ (National Center for Health Statistics) จากนั้นจึงวาดกราฟอายุขัย ที่เชื่อมโยงกับระดับการออกกำลังกาย
ส่วนระดับการออกกำลังกาย ผู้วิจัยใช้ข้อมูลประมาณการ จากการสำรวจสุขภาพและโภชนาการแห่งชาติ (National Health and Nutrition Examination Survey) ระหว่างปี 2003 ถึง 2006 โดยใช้ข้อมูลระดับกิจกรรมทางกายภาพ ของกลุ่มตัวอย่างพลเรือนสหรัฐฯ ที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของสถานพยาบาล หรือสถาบันอื่นๆ
แต่ความซับซ้อนก็ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะการออกกำลังกายก็มีหลากหลายรูปแบบ แล้วผู้วิจัยจะเปรียบเทียบกันอย่างไร?
เพื่อแปลงการออกกำลังทุกประเภท ให้เป็นหน่วยวัดเดียวกัน ผู้วิจัยได้แปลงค่าระดับกิจกรรมทางกายภาพที่วัดได้ทั้งหมดเป็น ‘จำนวนชั่วโมงการเดิน’ ที่เทียบเท่ากัน โดยตั้งคำถามว่าการเดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1 ชั่วโมง ด้วยความเร็ว 3 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้นได้กี่ชั่วโมง
การศึกษาครั้งนี้ ได้คำตอบว่าอะไร?
หากคำนวณตามวิธีที่กล่าวมา ผู้วิจัยพบว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวมากที่สุด หรือแอ็กทิฟมากที่สุด ใช้เวลาเดินด้วยความเร็ว 3 ไมล์ต่อชั่วโมง ราว 160 นาทีต่อวัน ในขณะที่กลุ่มที่เคลื่อนไหวน้อยที่สุด จะใช้เวลาเดินราว 49 นาทีต่อวัน อย่างไรก็ผู้วิจัยย้ำว่า ระยะเวลาการเดินดังกล่าวเป็นเพียงการเปรียบเทียบ เพื่อใช้อ้างอิงในการศึกษา
จากนั้น ผู้วิจัยได้แบ่งผู้ใหญ่ชาวอเมริกันอายุ 40 ปีขึ้นไป ออกเป็น 4 กลุ่มตามระดับการออกกำลังกายข้างต้น แล้วระบุว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวร่างกายมากที่สุดกับน้อยที่สุด อาจมีอายุขัยต่างกันเกือบ 11 ปี และหากชาวอเมริกันที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีกิจกรรมทางกายภาพ เทียบเท่ากับกลุ่มที่เคลื่อนไหวร่างกายน้อยที่สุด จะมีอายุขัยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 73 ปี
นอกจากนี้ หากอ้างอิงตามข้อมูลข้างต้น อาจกล่าวได้ว่าชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า 40 ปี จะมีอายุยืนยาวขึ้นอีก 5.3 ปี หากสามารถเคลื่อนไหวร่างกาย ให้เท่ากับประชากรที่เคลื่อนไหวร่างกายมากที่สุด 25%
“หากมีสักอย่างที่คุณจะทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงมากกว่าครึ่งหนึ่งในการเสียชีวิต กิจกรรมทางกายภาพนั้น ก็นับว่ามีพลังมหาศาล” Lennert Veerman ผู้วิจัย และอาจารย์ด้านสาธารณสุข จากมหาวิทยาลัย Griffith ในออสเตรเลีย กล่าวพร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย ที่มีต่อสุขภาพ
อ้างอิงจาก