ผ่านมาหลายปีแล้ว ที่ประเทศไทยกักตัว ชาวอุยกูร์–ชนกลุ่มน้อยที่มีต้นกำเนิดมาจากเขตซินเจียง ทางตะวันตกของจีน ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามและใช้ภาษาเติร์กเป็นหลัก ที่สถานกักตัวคนต่างด้าวซอยสวนพลู ในกรุงเทพฯ อย่างไม่มีกำหนด
อ่านกรณีการถูกจับกุมชาวอุยกูร์ ในประเทศไทย เมื่อ 13 มีนาคม 2014 ที่ จ.สงขลา บริเวณพรมแดนไทย-มาเลเซีย ได้ที่ : thematter.co
ประเด็นเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ถูกพูดถึงอีกครั้ง หลัง 11 มกราคมที่ผ่านมา สภาอุยกูร์โลก (World Uyghur Congress หรือ WUC) มีแถลงการณ์ เรียกร้องให้ทางการไทยหยุดการส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 48 คน กลับไปยังประเทศจีน
“ทางการไทยต้องหยุดการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์เหล่านี้กลับประเทศจีน เพราะพวกเขาจะถูกลงโทษ ในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดอย่างแน่นอน ซึ่งจะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” ตูร์กุนจัน อาลอดูน (Turgunjan Alawdun) ประธาน WUC ระบุ
ในแถลงการณ์ของ WUC ยังกล่าวว่า ในจดหมายของผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ส่งจากสถานกักตัว ระบุว่าเมื่อวันที่ 8 มกราคม พวกเขาถูกขอให้ลงนามในเอกสารยินยอม ที่จะส่งตัวพวกเขากลับประเทศจีนโดยสมัครใจ และหากปฏิเสธที่จะลงนาม เจ้าหน้าที่ก็ถ่ายรูปพวกเขาไว้
WUC ระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. กลุ่มชายชาวอุยกูร์ ได้ส่งข้อความ SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากชุมชนระหว่างประเทศ รวมถึงองค์กรและหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนโดยด่วน
หลังจากนั้น วันที่ 16 มกราคม กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ มาร์โก รูบิโอ (Macro Rubio) วุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกัน ผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ (รมว.กต.) สหรัฐฯ ตอบคำถามคณะ กมธ.พิจารณาแต่งตั้งฯ ถึงกรณีที่ไทยจะส่งตัวชาวอุยกูร์ กลับประเทศจีน
กัณวีร์ระบุว่า หาก Rubio ได้รับการแต่งตั้งเป็น รมว.กต.สหรัฐฯ ตามที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) วางตัวไว้ “ประเด็นเรื่องผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ในไทย คงถูกซักถามอย่างเป็นทางการโดยรัฐบาลสหรัฐฯ แน่ๆ”
นอกจากนี้ เขายังชวนจับตามองการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าจะมีมติส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนหรือไม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมามีข่าวว่า พวกเขาจะถูกส่งตัว ภายในวันจันทร์ที่ 20 มกราคมนี้
วันที่ 17 มกราคม ด้านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผู้เป็นประธานการประชุม สมช. ปฏิเสธข่าวการส่งกลับชาวอุยกูร์กลับประเทศ ในวันที่ 20 มกราคมนี้ พร้อมบอกว่ายังไม่มีการส่งกลับในระยะอันใกล้นี้
ขณะเดียวกัน ภูมิธรรมกล่าวว่า มีการเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในที่ประชุม แต่เพื่อดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ว่าควรจะทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย และไม่ให้เกิดปัญหากับประเทศไทย และนานาประเทศ
ในวันเดียวกัน ภาคประชาสังคมไทยร่วมออกแถลงการณ์คัดค้าน โดยเรียกร้องให้ทางการไทยปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์อย่างถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่า พวกเขาจะได้รับการดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบแบบฟอร์มที่จะให้ชาวอุยกูรย์ลงนาม ว่าเป็นแบบฟอร์มอะไร เพื่อความโปร่งใส ว่าเป็นไปโดยความสมัครใจอย่างแท้จริง
วันที่ 18 มกราคม WUC พร้อมองค์กรในเครือ และกลุ่มอุยกูร์ต่างๆ ทั่วโลก ได้ทําการประท้วงที่หน้าสถานทูตไทย ในหลายประเทศ พร้อมทั้งส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปยังสถานทูตไทย เพื่อให้รัฐบาลไทยยุติการส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 48 คนกลับประเทศจีน พร้อมเน้นย้ำว่า หากถูกส่งกลับไปยังจีน พวกเขาจะเสี่ยงต่อการทรมาน ถูกบังคับใช้แรงงาน และแม้กระทั่งเสียชีวิต
“นี่เป็นความล้มเหลวอย่างร้ายแรงของระบบผู้ลี้ภัยโลกที่ไม่ควรให้คนอุยกูร์เหล่านี้ถูกส่งกลับไปยังระบอบที่กำลังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อพวกเขา” ราชาน อับบาส (Rushan Abbas) ประธานคณะกรรมการบริหาร WUC ให้สัมภาษณ์กับสุทธิชัย หยุ่น และฐปณีย์ เอียดศรีไชย
สำนักข่าว The Reporters รายงานว่าเธอเดินทางมากรุงเทพฯ หลังจากทราบข่าวการส่งกลับชาวอุยกูร์ กลับประเทศจีน ภายในวันที่ 20 มกราคม ทั้งนี้ อับบาสย้ำว่า ทางการไทยต้องยุติการส่งตัวผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับประเทศจีน เนื่องจากพวกเขาจะต้องเผชิญกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ (20 มกราคม) ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่าชาวอุยกูร์ถูกส่งกลับประเทศจีนหรือไม่ แต่หลายฝ่ายยังคงจับตามองสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความกังวลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ
อ้างอิงจาก