ใครๆ ก็อาจจะคุ้นหูคุ้นตากับ ‘เกาะซานโตรินี’ ประเทศกรีซ หนึ่งในเกาะที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ซึ่งเรามักจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ผ่านหน้าฟีดบนโซเชียลมีเดีย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น เกาะอินสตาแกรม (Instagram island) เลยด้วย
แต่ล่าสุด เกาะที่สวยงามแห่งนี้ประสบกับแผ่นดินไหวกว่า 200 ครั้งติดต่อกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทำให้ทางการต้องประกาศปิดโรงเรียนบนเกาะดังกล่าว รวมถึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันในที่ร่มเป็นจำนวนมาก รวมถึงเลี่ยงท่าเรือหลายๆ แห่งด้วย
ย้อนกลับไปในช่วงวันศุกร์ (31 มกราคม) และวันอาทิตย์ (2 กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมา มีการตรวจพบแผ่นดินไหวมากกว่า 200 ครั้งระหว่างเกาะซานโตรินี และอามอร์กอส ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวขนาด 4.6 ริกเตอร์ และถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
จริงๆ แล้ว เกาะซานโตรินีเคยเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากตั้งอยู่บนรอยเลื่อนหลายแห่ง ขณะที่ความเสี่ยงในการเกิดแผ่นดินไหวนี้ก็ไม่ได้ทำให้เกาะเสียนักท่องเที่ยวไป โดยมีผู้คนจากทุกสารทิศกว่า 3.4 ล้านคน มาท่องเที่ยวในแต่ละปี แม้ว่าบนเกาะนี้จะมีผู้อยู่อาศัยจริงๆ ประมาณ 20,000 คนเท่านั้น
เกาะแห่งนี้ถูกเรียกกันว่าเป็น เกาะอินสตาแกรม เพราะทั้งบ้านเมืองประกอบกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรับกันไปหมด เรียกได้ว่า จะถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด เกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวภูเขาไฟเฮลเลนิก ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังปะทุมากที่สุดในยุโรป โดยเกิดการปะทุมากกว่า 100 ครั้งในช่วง 400,000 ปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ระบุว่า แผ่นดินไหวในปัจจุบันเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกซึ่งดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟ ขณะที่พบว่ามีแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นในปี 2011 และ 2012 แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการปะทุใดๆ
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดในซานโตรินีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 1956 โดยมีแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริกเตอร์ ตามมาด้วยคลื่นสึนามิสูง 25 เมตร จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 รายและบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย ขณะที่บ้านเรือนอย่างน้อย 1 ใน 3 หลังพังทลาย
อ้างอิงจาก