ยังมีความเห็นที่ร้อนแรงออกมาเรื่อยๆ สำหรับ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ทุกครั้งที่จรดปากกาลงนามในคำสั่งบริหาร ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้นสถานการณ์ในฉนวนกาซา ที่ทรัมป์บอกว่าสหรัฐฯ จะเข้ายึดพื้นที่
ทรัมป์บอกกับสื่อขณะเดินทางมาดูการแข่งขันซูเปอร์โบลว์เมื่อวันอาทิตย์ (9 กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมาว่า เขามองกาซาเป็น ‘พื้นที่อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่’
“ผมคิดว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่ปล่อยให้ผู้คนชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในกาซา กลับไปพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง และเราก็ไม่ต้องการให้กลุ่มฮามาสกลับไปด้วย ลองนึกภาพมันเป็นพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และสหรัฐฯ เป็นเจ้าของมัน เราจะค่อยๆ พัฒนามัน และนำเสถียรภาพมาสู่ตะวันออกกลางในไม่ช้า” เขากล่าว
ขณะที่สหประชาชาติ (UN) รายงานว่า สงครามของอิสราเอล-ฮามาสทำให้ชาวกาซา 90% ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ซึ่งหลายคนถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐานซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทรัมป์อดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ บอกว่า กาซาเป็นพื้นที่รื้อถอนและต้องซ่อมแซม ซึ่งประเทศตะวันออกกลางอื่นๆ จะจัดพื้นที่ให้กับชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นในสถานที่ที่สวยงาม
ทรัมป์เสนอเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โดยเนทันยาฮูกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีหลังจากกลับจากสหรัฐฯ ว่าการเยือนและหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะนำมาซึ่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เพิ่มเติม ซึ่งสามารถรับประกันความปลอดภัยของอิสราเอลได้หลายชั่วอายุคน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาส บอกว่าคำพูดล่าสุดของทรัมป์ ‘ไร้สาระ’
“ฉนวนกาซาไม่ใช่ทรัพย์สินที่ซื้อขายได้ และเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่เรายึดครอง การจัดการกับปัญหาปาเลสไตน์ด้วยความคิดแบบนายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นสูตรแห่งความล้มเหลว” อิซซัต อัล-ริชก์ สมาชิกฮามาสกล่าว
นอกจากนี้กลุ่มผู้นำในตะวันออกกลางได้ปฏิเสธแผนการยึดครองของทรัมป์ ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ดำเนินมายาวนานหลายสิบปี
อ้างอิงจาก
