ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น หนึ่งใน AI ที่ทุกคนรู้จักเป็นอันดับต้นๆ ย่อมหนีไม่พ้น ‘ChatGPT’ เครื่องมือ generative AI ที่สามารถสั่งการให้สร้างข้อความหรือรูปภาพต่างๆ ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกอย่าง ‘อีลอน มัสก์’ (Elon Musk) เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งมันขึ้นมาดวย
ย้อนกลับไปในปี 2015 มัสก์ ร่วมกับ แซม อัลท์แมน (Sam Altman) CEO ของ OpenAI ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท OpenAI ซึ่งเป็นเจ้าของของ ChatGPT ขึ้นมา อย่างไรก็ดี มัสก์ได้ออกจากบริษัทไปตั้งแต่ปี 2018 หลังแนวทางการบริหารไม่ตรงกัน
อย่างไรก็ดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 มีรายงานใน Wall Street Journey ว่า กลุ่มนักลงทุนนำโดยมัสก์ ได้ยื่นข้อเสนอเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ OpenAI ด้วยมูลค่า 97,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.3 ล้านล้านบาทไทย) ซึ่งหากเป้นเช่นนั้นจริง มัสก์อาจมีอำนาจควบคุมบริษัทส่วนใหญ่ ซึ่ง OpenAI ก็ถือเป็นคู่แข่งกับ X.AI ที่มัสก์เป็นเจ้าของอยู่ด้วย
ซึ่งมัสก์เองได้มีเรื่องบาดหมางอัลท์แมนมาระยะหนึ่งแล้ว และยังยื่นฟ้องบริษัทมาแล้วหลายคดี โดยอ้างว่า บริษัทปัญญาประดิษฐ์และ CEO ของบริษัท ได้บิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ OpenAI ที่ควรจะเป็นองค์กรการกุศล โดยมัสก์อ้างว่า พวกเขาได้ทำลายกฎบัตรการก่อตั้งบริษัท โดยการแสวงหากำไรจากเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์
OpenAI ดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหากำไร ชื่อว่า OpenAI LP ซึ่งเป็นบริษัทแสวงหากำไรที่ดำเนินการภายในโครงสร้างของบริษัทที่ใหญ่กว่า ซึ่งบริษัทดังกล่าว ได้ทำให้ OpenAI จากที่แทบจะเรียกได้ว่าไร้ค่ามาก่อน กลายมาบริษัทที่มีมูลค่าราว 100,000 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่ปี และอัลท์แมนยังได้รับการยกย่องว่าเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของบริษัทอีกด้วย
“หากแซม อัลท์แมนและคณะกรรมการบริหารของ OpenAI, Inc. ในปัจจุบัน ตั้งใจที่จะเป็นบริษัทที่แสวงหากำไรอย่างเต็มตัว ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรการกุศลจะต้องได้รับค่าตอบแทนอย่างยุติธรรมสำหรับสิ่งที่ผู้นำขององค์กรกำลังพรากมักไป นั่นคือการควบคุมเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดในยุคของเรา” มาร์ก โทเบอรอฟฟ์ (Marc Toberoff) ทนายความที่เป็นตัวแทนของนักลงทุนกล่าวในแถลงการณ์
เขากล่าวเสริมว่า “ถึงเวลาแล้วที่ OpenAI จะต้องกลับคืนสู่พลัง open-source ที่เน้นด้านความปลอดภัยอย่างถาวรเช่นเดิม เราจะทำให้แน่ใจว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น”
อัลท์แมน โต้ตอบประเด็นนี้ผ่านการโพสต์ลงบนเอ็กซ์ (X) ว่า “ไม่ดีกว่า ขอบคุณ แต่เราซื้อทวิตเตอร์ในราคา 97,400 หมื่นล้านบาทแทนได้นะ ถ้าคุณต้องการ”
OpenAI ก่อตั้งขึ้น จากความเชื่อของผู้สร้างที่ว่า ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป หรือ AGI (การสร้างซอฟต์แวร์ที่มีปัญญาคล้ายมนุษย์ และมีความสามารถในการสอนตนเอง) เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อมนุษยชาติ ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลเพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่บริษัทสร้างขึ้น และเปิดเผยรหัสผลิตภัณฑ์ต่อสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทมีผู้สนับสนุนรายใหญ่ เช่น Microsoft และ Thrive Capital มาร่วมลงทุน ก็ตามมาด้วยภาระผูกพันที่จะต้องขยายธุรกิจและสร้างกำไร เพราะนักลงทุนย่อมต้องการมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า .
นี่จึงอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัลท์แมนผลักดันให้บริษัทแสวงหากำไรแห่งนี้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เร็วขึ้นและออกสู่ตลาดเป็นรายแรกๆ ตามแนวทาง “เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทลายสิ่งที่กีดขวาง” อันยิ่งใหญ่ของ Silicon Valley
แต่ก็คงเป็นเรื่องปกติที่ผลิตภัณฑ์แรกๆ เหล่านั้นไม่ได้ผลดีเสมอไปในตอนแรก ซึ่งเมื่อผลิตภัณฑ์ที่ว่าคือ AGI จึงทำให้อาจเป็นปัญหาได้เมื่อเป็นเทคโนโลยีที่เลียนแบบคำพูดและพฤติกรรมของมนุษย์ได้ดีจนสามารถหลอกคนให้เชื่อว่าบทสนทนาและภาพปลอมๆ นั้นเป็นของจริง
มัสก์ ฟ้อง OpenAI ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2024 แต่ถอนฟ้องหลังจากที่บริษัทเผยแพร่โพสต์บล็อกที่มีอีเมลของมัสก์หลายฉบับในช่วงเริ่มต้นของ OpenAI ซึ่งเนื้อหาเหมือนจะแสดงให้เห็นว่ามัสก์ยอมรับถึงความจำเป็นที่บริษัทจะต้องหาเงินจำนวนมากเพื่อจัดหาทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นในการขับเคลื่อนความทะเยอทะยานด้าน AI ซึ่งขัดแย้งกับข้อเรียกร้องในคดีความของเขาที่ว่า OpenAI แสวงหากำไรอย่างไม่ถูกต้อง
มัสก์ได้ยื่นฟ้องใหม่ในเดือนสิงหาคม 2024 และกล่าวหาว่า OpenAI เร่งพัฒนาเทคโนโลยี AGI ที่ทรงพลังเพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุดนอกจากนี้ มัสก์ยังกล่าวหาว่าบริษัทมีส่วนร่วมในกิจการกรรโชกทรัพย์อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน OpenAI กล่าวหาว่า มัสก์อิจฉาที่เขาไม่เกี่ยวข้องกับสตาร์ทอัปนี้อีกต่อไปแล้วในวันที่มันประสบความสำเร็จสูงสุด หลังจากที่เขาออกจากบริษัทไป และพยายามโน้มน้าวใจผู้ก่อตั้งร่วมคนอื่นๆ ให้ปล่อยให้ Tesla เข้าซื้อกิจการ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
การเคลื่อนไหวของมหาเศรษฐีในครั้งนี้ จึงเป็นประเด็นที่น่าจับตามองว่า ในวงการปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงหรือก้าวหน้าอย่างไรต่อไปหลังมัสก์ ผู้ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลให้ความสนใจและต้องการจะลงมาบริหารด้วยตัวเอง
อ้างอิงจาก