อิสราเอลเปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาอีกครั้ง ส่งผลให้มีเด็กเสียชีวิตเกิน 300 คน ตามรายงานของ UNICEF
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2025 อิสราเอลเข้าโจมตีฉนวนกาซาอีกครั้ง ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน โดยกล่าวหาว่าฮามาสปฏิเสธข้อเสนอใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะขยายการหยุดยิงและไม่ปล่อยตัวตัวประกัน 59 คนที่ยังถูกกักขังอยู่ในฉนวนกาซา!ขณะที่ฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าละเมิดข้อตกลงเดิมที่ตกลงกันไว้เมื่อเดือนมกราคม
UNICEF รายงานว่า การโจมตีครั้งนี้ ส่งผลให้เด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 322 คน และบาดเจ็บ 609 คน หรือนับว่ามีเดํกเฉลี่ยวันละ 100 คนที่เสียชีวิตหรือพิการช่วง 10 วันที่ผ่านมา
ตัวเลขนี้ รวมถึงเด็กที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการโจมตีแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลอัลนัสเซอร์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมด้วย
UNICEF อ้างอิงตัวเลขจากกระทรวงสาธารณสุขของฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นตัวเลขที่อิสราเอลโต้แย้งมาโดยตลอด แต่ตัวเลขเหล่านี้ก็ถือเป็นข้อมูลที่ได้รับความเชื่อถือจาก UN และสถาบันระหว่างประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้ นักข่าวต่างประเทศ ถูกอิสราเอลสั่งห้ามเข้ากาซาหากไม่ได้รับอนุญาต จึงไม่สามารถตรวจสอบตัวเลขผู้เสียชีวิตที่หน้างานได้
ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกำลังอยู่ในภาวะตึงเครียด และพลเรือนในกาซา โดยเฉพาะเด็กหนึ่งล้านคน กำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง มาจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง และมีการปิดกั้นการส่งเสบียงเข้าฉนวนกาซามานานกว่า 3 สัปดาห์
แคทเธอรีน รัสเซล (Catherine Russell) ผู้อำนวยการบริหารของ UNICEF กล่าวว่า “การหยุดยิงในกาซาจะเป็นการช่วยชีวิตที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ และเป็นความหวังในการฟื้นฟู แต่เด็กๆ กลับต้องตกอยู่ในวงจรความรุนแรงและการขาดแคลนอีกครั้ง ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเพื่อปกป้องเด็ก”
นับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้นตั้งแต่ตุลาคม 2023 ผ่านมา 18 เดือน เด็กมากกว่า 15,000 คนเสียชีวิต บาดเจ็บกว่า 34,000 คน และเกือบหนึ่งล้านคนต้องพลัดถิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและถูกกีดกันจากบริการขั้นพื้นฐาน
ความช่วยเหลือไม่สามารถเข้าถึงฉนวนกาซาได้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2025 ซึ่งเป็นการปิดกั้นความช่วยเหลือที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามมา
อาหาร น้ำดื่มสะอาด ที่พักพิง และการรักษาพยาบาลจึงขาดแคลนมากขึ้น ซึ่งถ้าหากไม่มีสิ่งจำเป็นเหล่านี้ การขาดสารอาหาร โรคภัยไข้เจ็บ และภาวะที่ป้องกันได้อื่นๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนเด็กที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
UNICEF ยังรายงานว่า องค์กรด้านมนุษยธรรมทำงานที่เข้าไปในพื้นที่ ยังมีเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนถูกโจมตีจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
UNICEF ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสู้รบและหยุดยิง ต้องอนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสินค้าเชิงพาณิชย์เข้าและขนส่งทั่วฉนวนกาซา เด็กที่ป่วยและบาดเจ็บต้องได้รับการอพยพเพื่อรับการรักษาพยาบาล พลเรือน รวมถึงเด็กและเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นที่เหลืออยู่ต้องได้รับการปกป้อง และตัวประกันต้องได้รับการปล่อยตัว
ที่สำคัญ คือการเรียกร้องให้รัฐที่มีอิทธิพล ใช้ประโยชน์เพื่อหยุดความขัดแย้ง และรับประกันว่าจะเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงปกป้องเด็ก โลกต้องไม่นิ่งเฉยและปล่อยให้การฆ่าและการทนทุกข์ทรมานของเด็กดำเนินต่อไป
อ้างอิงจาก