เมื่อวานนี้ (19 พฤษภาคม 2025) ผู้ประท้วงในชุดสีแดงนับแสนคน ร่วมกันเดินขบวน ณ กรุงเฮก เรียกร้องให้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ดำเนินการ แสดงจุดยืนและดำเนินการช่วยหยุดยั้งการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา โดยมีผู้ประเมินว่า เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนและองค์กรหลายแห่ง รวมถึงแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) และองค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders) ได้ประเมินจำนวนฝูงชนที่มาชุมนุมอย่างสันติ ว่าอาจมีมากกว่า 100,000 คน โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า ท้องถนนในกรุงเฮก เต็มไปด้วยคนหลากหลายวัย
ผู้จัดงานกล่าวอีกว่า นี่เป็นการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบสองทศวรรษ โดยผู้เข้าร่วมชุมนุมต้องการกดดันรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ให้ดำเนินการต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา
“เราหวังว่านี่จะเป็นการเตือนสติรัฐบาล” กล่าวโดย Roos Lingbeek ครูคนหนึ่ง ที่มาร่วมเดินขบวน พร้อมกับสามีและลูกสาววัย 12 สัปดาห์
“บางครั้งฉันรู้สึกละอายใจกับรัฐบาล เพราะ (รัฐบาล) ไม่มีขอบเขตใดๆ” Jolanda Nio ผู้เข้าร่วมชุมนุม วัย 59 ปีกล่าว
ด้าน Marjon Rozema จากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “เราเรียกร้องให้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์หยุดให้การสนับสนุนทางการเมือง เศรษฐกิจ และการทหาร แก่อิสราเอล หาก (อิสราเอล) ยังคงปิดกั้นการส่งความช่วยเหลือ (แก่ผู้คนในฉนวนกาซา) ต่อไป และหากยังมีความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่ออาชญากรรมสงคราม และละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับโครงสร้าง ในฉนวนกาซาและดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง”
ฝูงชนได้เดินขบวนรอบใจกลางกรุงเฮก เป็นวงกลมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร เพื่อสร้างเส้นแบ่งเขตแดนสีแดง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่ารัฐบาลล้มเหลวในการกำหนดขอบเขต โดยผ่านพระราชวังสันติภาพ (Peace Palace) หรือที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ของสหประชาชาติ ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ผู้พิพากษาได้สั่งให้อิสราเอลทำทุกวิถีทาง เพื่อหยุดการฆ่า การทำลายล้าง และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ใดๆ ในฉนวนกาซา
ในขณะเดียวกัน ตอนนี้สถานการณ์ในฉนวนกาซาก็ยังคงเกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองกำลังอิสราเอลได้เปิด ‘ปฏิบัติการครั้งใหญ่’ และโจมตีทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
โรงพยาบาลและแพทย์ในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีทางอากาศในปฏิบัติการดังกล่าว คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 103 ราย รวมถึงเด็กหลายสิบคน ในช่วงกลางคืนวัของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 พฤษภาคม 2025) ทำให้โรงพยาบาลหลักทางตอนเหนือของฉนวนกาซาต้องปิดทำการ
สิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ ขณะนี้อิสราเอลได้ปิดล้อมการลำเลียงอาหาร ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เข้าสู่ฉนวนกาซา อย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางอาหารระดับโลกได้เตือนว่า อาจเกิดภาวะอดอยากในพื้นที่ซึ่งมีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน
อ้างอิงจาก