แปลกดีเนอะ พอไม่มีรูปภาพ ไม่มีข่าวแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็เหมือนจะไม่เคยมีอยู่จริงเลย สำนักข่าวหลายแห่งกำลังรายงานถึงวิธีที่รัฐบาลจีน กำลังควบคุมข่าวสารภายในประเทศ เพื่อไม่ให้ประชาชนรับรู้ถึงการประท้วงที่ฮ่องกง
Bloomberg รายงานว่า แม้การชุมนุมที่ฮ่องกงจะเป็นข่าวใหญ่ในระดับโลก และมีภาพของผู้ชุมนุมจำนวนมากมาราวมตัวกัน เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ทว่า ‘The Great Firewall’ ของจีนก็ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สกัดข้อมูลข่าวสารนั้น ไม่ให้เข้ามาในจีน
ขณะที่ China Digital Times เว็บไซต์ที่ทำหน้าที่มอนิเตอร์การเซ็นเซอร์ข่าวสารต่างๆ ของประเทศจีนก็พบเช่นเดียวกันว่า สิ่งที่จีนทำคือการ ‘ลบ’ และ ‘ป้องกัน’ ไม่ให้คีย์เวิร์ดต่างๆ เกี่ยวกับการประท้วงได้ปรากฎบนเว็บไซต์ต่างๆ ภายในประเทศ โดยการเซ็นเซอร์นี้ก็แทบจะดำเนินไปอย่างเข้มข้นและเรียลไทม์
ตามรายงานระบุว่า คีย์เวิร์ดที่จีนจะพุ่งความสนใจเป็นพิเศษเพื่อสกัดข้อมูลออกไปจากเว็บไซต์ ทั้งคำว่า ฮ่องกง, เสรีภาพ, ประชาธิปไตย, การชุมนุม รวมถึงคำที่ผู้ชุมนุมในฮ่องกงมักใช้อย่างคำว่า ไม่เอากฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กับจีน
King-wa Fu จากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ระบุว่า เนื้อหาข่าวสารที่มีคีย์เวิร์ดเกี่ยวข้องกับการชุมนุมโดยตรง แทบจะไม่มีโอกาสได้ไปโผล่ขึ้นในเว็บไซต์ต่างๆ ในจีนเลย
“พวกเขาไม่ชอบให้มีการพูดถึงประเด็นเหล่านั้นในจีน ทั้งเรื่องการประทว้ง การกระทำต่างๆ ของตำรวจซึ่งเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ พวกเขาไม่ต้องการให้คนจีนแผ่นดินใหญ่ได้รับสัญญาณอะไรบางอย่าง ที่จะทำให้รู้ว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ (การชุมนุม) แบบนี้เหมือนกับในฮ่องกง” King-wa Fu ระบุ
คู่ขนานไปกับการมอนิเตอร์คีย์เวิร์ดเหล่านี้ แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในจีนเป็นอย่างมากอย่าง Wechat และ Weibo ก็ถูกมอนิเตอร์อย่างเข้มงวดเรื่องฮ่องกงด้วยเหมือนกัน
มีข้อมูลที่พบว่า แม้ผู้ใช้งานบางคนจะพยายามส่งรูปการประท้วงในฮ่องกงไปให้กับเพื่อนในจีน แต่ผู้ใช้ที่อยู่ปลายทางก็จะไม่ได้รูปนั้นแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการเซ็นเซอร์ภาพการประท้วงบนเว็บไซต์ให้กลายเป็นภาพที่มองไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือบางกรณีคือก็ถูกลบภาพทิ้งไปเลย
ไม่ใช่แค่เซ็นเซอร์เนื้อหาโดยตรงที่ส่งมาจากฮ่องกง ข้อมูลหรือคำชี้แจงส่วนใหญ่ที่ชาวจีนจะได้ มักจะมาจากสื่อที่เป็นของรัฐบาลจีนเป็นหลัก ซึ่งหลายๆ ครั้งก็จะมักจะวิจารณ์ว่า นี่คือการเข้ามาแทรกแซงฮ่องกงของชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ รวมถึงการเลือกพูดถึงการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ และการพูดถึงกฎหมายนี้ในแง่ที่เป็นประโยชน์กับทางการจีนเป็นส่วนใหญ่
สัปดาห์ที่แล้วยังมีข่าวด้วยว่า แอพ Telegram ที่ผู้ชุมนุมในฮ่องกงนิยมใช้เพื่อสื่อสารข้อมูลระหว่างกัน ถูกโจมตีอย่างหนัก โดยรายงานหลายชิ้นชี้ว่าต้นทางของการโจมตีมาจากประเทศจีน
อ้างอิงจาก
https://qz.com/1647908/not-even-the-hong-kong-protests-can-get-past-chinese-censors/
https://www.cnbc.com/2019/06/13/hong-kong-protests-role-of-technology-and-china-censorship.html
https://www.latimes.com/world/la-fg-china-hong-kong-censorship-20190618-story.html
https://thediplomat.com/2019/06/what-china-is-saying-about-the-hong-kong-protests/
#Brief #TheMATTER