เหตุการณ์ที่เป็นไวรัลที่สุดในช่วงวันนี้ คงเป็นเหตุการณ์ของหนุ่มแว่นหัวร้อน ที่มีคลิปออกมาว่า เขาได้ด่าทอ และดูถูกคู่กรณี หลังประสบอุบัติเหตุรถยนต์ แต่ถึงอย่างนั้นเหตุการณ์กลับกลายเป็นการรวมตัว จะรุมประชาทัณฑ์หนุ่มแว่นคนนี้ ระหว่างที่เขาเข้าสอบปากคำตำรวจที่สถานีตำรวจด้วย
เกิดอะไรขึ้น ในเหตุการณ์นี้บ้าง จากคลิปไวรัลที่หนุ่มแว่นดูถูกคู่กรณี มาถึงการชุมนุมของประชาชนที่รวมตัวไม่พอใจได้อย่างไร The MATTER สรุปเหตุการณ์นี้มาให้แล้ว
1. เกิดคลิปวิดีโอที่เป็นกระแสในโลกโซเชียล เป็นเหตุการณ์หลังจากการเกิดอุบัติเหตุบนถนนถนนอักษะ ย่านทวีวัฒนา ที่มีชายสวมเสื้อสีขาว และใส่แว่นตา เจ้าของรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค เข้ามาด่าทอ และดูหมิ่นคนขับรถกระบะ ซึ่งเป็นคู่กรณี ด้วยลักษณะเหมือนขาดสติ ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ทั้งดูถูกเรื่องฐานะเศรษฐกิจ และด่าทอไปถึงรัฐมนตรี และประเทศ พร้อมบอกว่าไม่น่ากลับมาประเทศไทย ในขณะที่มีหญิงสาวผู้ที่มาด้วยกันพยายามห้ามปราม
2. ในตอนนี้ คลิปต้นทางมีคนรับชมแล้วมากกว่า 17 ล้านครั้ง และโพสต์ดังกล่าวยังมียอดแชร์มากถึง 8 แสน ซึ่งชาวเน็ตต่างก็พูดถึงเหตุการณ์ในคลิป และตัวหนุ่มแว่นหัวร้อน จนเกิดเป็นแฮชแท็กในทวิตเตอร์ว่า #รวยจนขาดสติ
3. หลังจากนั้น ได้มีความพยายามขุดคุ้ยตัวตนของชายคนนี้ในโซเชียล และมีการสืบไปถึงครอบครัว ประวัติการเรียน และสถานที่ทำงานต่างๆ ของเขา จนมีรายงานว่า เขาได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวไปในที่สุด
4. ผลของเหตุการณ์นี้ ทำให้ทางบริษัท กาซ่า ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งทางหนุ่มแว่นเป็นพนักงานอยู่ ได้ออกมาประกาศตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เขาพ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน ท่ามกลางคอมเมนต์ที่ชื่นชมบริษัทว่า ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
5. แต่ถึงอย่างนั้น การขุดคุ้ย และวิพากษ์วิจารณ์ในตัวรชฎเอง ก็ได้กลายเป็นการด่าทอญาติๆ ของเขาด้วย โดยญาติๆ ที่ใช้นามสกุลเดียวกันหลายคน ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ แต่โดนคุกคาม และด่าทอเหมารวมไปด้วย จึงได้ออกมาขอร้องให้ชาวเน็ต ที่เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน
6. สำนักข่าวไทยหลายๆ เจ้า ได้เดินทางไปยังบ้านของหนุ่มแว่นในคลิป เพื่อสัมภาษณ์ และพูดคุยถึงเหตุการณ์ โดยได้พบกับผู้ปกครอง โดยขณะนั้น คุณพ่อของเขาเล่าว่ายังไม่เห็นคลิป แต่ลูกชายเล่าว่า เขาเลี้ยวกลับรถมาแล้ว แต่รถกระบะไม่มีน้ำใจก็เสียบเข้ามา เลยเฉี่ยวกัน เขาจึงโมโห ว่าทำไมขับรถไม่มีน้ำใจ ทั้งเขายังเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกด้วย ทั้งยังขอโทษแทนลูก ซึ่งขณะนั้น คุณแม่เอง ก็ได้พูดเสริมออกมาว่า “ตอนนี้กินยาที่โรงพยาบาลอยู่ เพราะเครียด” ด้วย
7. ช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.พุทธมณฑล ได้เชิญตัวหนุ่มแว่นและผู้หญิงผู้อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงครอบครัวมายังสถานีตำรวจ เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ และสาเหตุ ทั้งยังแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทซึ่งหน้า เพราะถ้อยคำที่ปรากฏในคลิป ซึ่งทางตำรวจชี้แจงว่า หากพบว่ามีพยานหลักฐานที่อาจะเข้าข่ายความผิดอื่นๆ เพื่อ จะแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง
8. โดยในการเดินทางมารับแจ้งข้อกล่าวหา หนุ่มแว่นยังได้นำยารักษาโรคซึมเศร้ามาด้วย เพื่อแสดงถึงอาการป่วย ซึ่งทางตำรวจแจ้งว่าเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา แต่จะต้องนำตัวส่งไปตรวจยังสถาบันของรัฐบาล เพื่อยืนยันว่าป่วยจริงตามที่อ้างหรือไม่ ในขณะที่เจ้าตัวก็ออกมาขอโทษสังคม และระบุว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เพราะไม่ได้กินยาจริงๆ
9. แต่เรื่องราวกลับไม่จบแค่นั้น เมื่อช่วงกลางดึก ชาวบ้านกว่า 500 คน มารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายหน้าสถานีตำรวจ เพราะอยากเจอหน้า และตะโกนด่าทอ จากความไม่พอใจที่หนุ่มแว่นดูถูกคนไทย และสถาบัน โดยกลุ่มชาวบ้านบางคนได้ยืนยันว่าจะรอถึงเช้า เพื่อดูหน้าหนุ่มแว่นด้วย ทั้งยังมีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ที่บางอันมียอดคนชมถึง 7 หมื่นคน
10. โดยมีคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมาขณะที่แม่ของหนุ่มแว่น และแฟนสาวออกมาจากโรงพัก และโดนตะโกนด่าทอด้วยความไม่พอใจ และหยาบคาย เช่น ‘เลี้ยงลูกมาอย่างไร’ เป็นต้น ในขณะที่ด้านตำรวจเอง ได้ขอกำลังตำรวจในจังหวัดนครปฐมมาเสริม เพื่อป้องกันเหตุที่อาจรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
11. ด้วยเหตุที่ดูอาจจะรุนแรงขึ้น ช่วงเวลาตี 2 พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้แจ้งว่า มีการประสานงานให้นำตัวหนุ่มแว่น ออกจากสถานีตำรวจพุทธมณฑล เพื่อไปยังสถานที่ปลอดภัย เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม จนประมาณเวลาตี 3 ประชาชนถึงเริ่มทยอยกลับไป
12. การเข้าไปล้อมโรงพักของประชาชน ทำให้มีการพูดถึงพฤติกรรมนี้อย่างมากในโซเชียล ทั้งว่ากลายเป็นการบานปลาย กลายเป็นการประชาทัณฑ์ และศาลเตี้ยด้วย
13. ในช่วงเช้าของวันนี้ มีสำนักข่าวพยายามติดต่อไปยังตำรวจ ในกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รชฏยังอยู่ในการควบคุมของทางตำรวจหรือไม่ว่า ซึ่งทางตำรวจได้ปฏิเสธจะตอบคำถาม และมีการระบุว่าตำรวจได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว และอัยการจะส่งฟ้องที่ศาลแขวงภายใน 1-2 วันนี้
อ้างอิงจาก
https://www.thairath.co.th/news/society/1688836
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2997144
https://www.komchadluek.net/news/regional/395030
https://tna.mcot.net/view/pGYDPxY
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2998070
https://www.tnnthailand.com/content/19833
#Recap #TheMATTER