ช่วงนี้หลายคนในวงการ NFT คงจะบ่นกันว่าค่า gas fee แพงแสนแพง จะลงงานศิลปะไปขายแต่ละที เจอค่าธรรมเนียมแทบหมดตัว เสียเป็นหมื่น ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ วีตาลิก บูเจริน ผู้ก่อตั้งเครือข่ายบล็อกเชนอีเธอเรียมก็คำนึงถึง
บล็อกเชนอีเธอเรียมเป็นเทคโนโลยีแบบ open source โดยเปิดแพลตฟอร์มให้นักพัฒนาคนอื่นๆ สามารถเข้ามาสร้างแอพพลิเคชั่น ผลิตภัณฑ์ และบริการแบบกระจายศูนย์ หรือ Dapps (decentralized application) ร่วมด้วยได้ การทำธุรกรรมต่างๆ จึงมหาศาล และบนระบบก็ต้องใช้เหรียญ ETH จ่ายเป็นค่า gas fee ซึ่งราคาเหรียญหนึ่งเหรียญก็ทะลุแสนบาทไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวีตาลิกออกมาเปิดตัวข้อเสนอใหม่ของบล็อกเชนอีเธอเรียม ‘EIP-4484’ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นที่จะเข้ามาแก้ปัญหาค่าธรรมเนียมหรือ gas fee ที่มีราคาแพงได้ โดยได้อธิบายถึงความสำคัญของมันไว้ว่า EIP-4488 จะช่วยลดต้นทุนเพิ่มเติมสำหรับการทำธุรกรรม (ในที่นี้วีตาลิกใช้คำว่า rollups) ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมใน Ethereum Layer 2 ลดลง
Ethereum Layer 2 คืออะไร? จริงๆ แล้ว ทุกบล็อกเชนอย่างเช่น Bitcoin จะมีโครงสร้างพื้นฐานหลัก คือ Blockchain Layer 1 ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป บล็อกเชนนั้นๆ มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น ผลที่ตามมาก็คล้ายๆ กับตอนที่รถติด ไปถึงจุดหมายช้ากว่าเดิม และสิ้นเปลืองน้ำมัน ซึ่งเป็นเรื่องที่อีเธอเรียมเคยเผชิญ คือ จำนวนธุรกรรมมาก ธุรกรรมล่าช้า เพราะรองรับได้น้อย แล้วค่า gas fee หรือค่าธรรมเนียมก็ยังแพงอีก ทำให้มีการพัฒนา Layer 2 ขึ้นมา เหมือนเป็นทางด่วนที่ครอบเอาไว้ โดยทำงานร่วมกับ Layer 1
วีตาลิกรู้ดีว่า ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น ทำให้เกิดการไหลออกของผู้ใช้งาน กระทั่งโดนผู้ใช้งานแบนด้วยซ้ำ และเป็นปัญหาที่กัดกินบล็อกเชนอีเธอเรียมมาอย่างยาวนาน
ความเห็นหลังการประกาศของวีตาลิกค่อนข้างหลากหลาย แต่หลายคนมองว่าเป็นไปได้ เพราะไม่ได้ไปลดความจุของ Layer 1 แต่จะช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรม สร้างสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ปลายทางสำคัญของการอัพเกรดบล็อกเชนคือแผนการ ‘Ethereum 2.0’ ในปีหน้า ซึ่งจะปรับจากบล็อกเชน proof-of-work เป็นบล็อกเชนแบบ proof-of-stake ซึ่งแบบหลังนั้นทำงานประมวลผลได้เร็วกว่า และประหยัดพลังงานมากกว่า เพราะแทนที่จะให้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องแข่งกันแก้สมการเพื่อแลกกับสิทธิ์ตรวจสอบธุรกรรม proof-of-stake จะให้ฝากเหรียญเข้ามาเพื่อค้ำประกัน แลกกับสิทธิ์ตรวจสอบ โดยระบบจะเป็นผู้สุ่มเลือกผู้ตรวจสอบขึ้นมาเอง
ซึ่งวีตาลิกเชื่อว่า Ethereum 2.0 จะช่วยลบคำครหาค่า gas fee แพงแม้ทำธุรกรรมน้อยนิดได้ แน่นอนว่าก็เป็นเรื่องที่นักลงทุนจับตามองเช่นกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก