สัปดาห์ที่แล้วมีเสียงแว่วๆ ถึงการอยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง แต่ชีวิตเราก็ยังต้องตื่นมาทำงาน จ่ายค่าบัตรเครดิต กลายเป็นความขัดแย้งในตัวเองที่อีกใจก็อัดอั้นอยากจะลุกขึ้นไปเปลี่ยนโลก เอาเป็นว่าหากทางกายภาพยังลุกไปเปลี่ยนโลกตอนนี้ไม่ได้ ลองไปอ่านเรื่องราวการต่อสู้และปฏิวัติจากวรรณกรรม 7 เรื่องไปพลางๆ ก่อน
ด้วยหัวใจที่กำลังลุกโชน การกลับไปอ่านเรื่องราวการกดขี่และการต่อสู้ดูจะเป็นหนึ่งในการ ‘ทดลอง’ เข้าไปสู่โลกของความขัดแย้ง พลังพิเศษอย่างหนึ่งของวรรณกรรมคือพาเราไปสำรวจผู้คน มองเห็นเรื่องราวและชีวิตจิตใจจำนวนมากที่รายล้อมอยู่ในการต่อสู้และความขัดแย้งนั้นๆ และที่สำคัญที่สุดคือ งานเขียนว่าด้วยการกดขี่และต่อสู้ทั้งหลาย มักส่งท้ายด้วยสัจธรรมสำคัญคือ ไม่มีอำนาจไหนที่สมบูรณ์ และที่ไหนที่มีการใช้อำนาจ ที่นั้นย่อมมีการต่อต้านแอบแฝงอยู่เสมอ
ด้านหนึ่ง การอ่านหนังสือเหล่านี้จึงถือเป็นการทดลองปีนบาริเคดในฝรั่งเศส ได้ไปลองนั่งรถไฟไปหาประธานเหมาในจีน ได้รับประสบการณ์การเป็นทาสผิวสีและยืนหยัดขึ้นต่อสู้เพื่อตัวเองและเผ่าพันธุ์ ไปจนถึงการมองเลยไปยังโลกอนาคตอันมืดมน ที่แม้จะเป็นโลกที่ดูสมบูรณ์แบบก็ยังมีการลุกขึ้นสู้ต่อต้านด้วยเช่นกัน
Les Misérables
‘Do you hear the people sing’ เป็นหนึ่งในหลายเพลงที่หลายๆ คนกำลังร้องอยู่ๆ ในช่วงนี้ Les Misérables เป็นอีกหนึ่งงานเขียนระดับไอค่อนที่มักได้รับการพูดถึง เป็นเรื่องที่ผู้คนที่ถูกกดขี่ หรือได้รับความอยุติธรรมในสังคมมากๆ จนในที่สุดนำมาด้วยการลุกขึ้นสู้ หนึ่งในฉากสำคัญคือภาพการก่อสร้างเครื่องกีดขวางที่ประชาชนชาวฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อสู้กับรัฐที่อาวุธครบมือ ผลและภาพของการปฏิวัติในเรื่องดูจะกลายเป็นต้นแบบการปฏิวัติจากประชาชน ในเรื่องเราจะได้สัมผัสการเสียสละและความตายจากการคนที่ยืนอยู่ฝั่งของความคิดและอุดมการณ์ และการสูญเสียกลายเป็นราคาที่ทุกการต่อสู้ต่อต้องจ่าย
Narrative of the Life of Frederick Douglass
หากพูดเรื่องการถูกกดขี่ ยังไงก็ต้องมีเรื่องราวของคนผิวสี Frederick Douglass เป็นคนผิวสีในตำนาน จากทาสที่แทบไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยเกี่ยวกับตัวเองตั้งแต่เกิด แทบทั้งชีวิตคือการทำงานหนักและอยู่ในสถานะไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงในไร่ Douglass ค่อยๆ แอบเรียนหนังสือด้วยตัวเอง จนในที่สุดเมื่อเวลาและโอกาสมาถึง Douglass จึงพลิกบทบาทตัวเองจากทาส ไปสู่นักต่อสู้และกลายเป็นคนสำคัญที่ทำให้เกิดการปลดปล่อยทาส
Wild Swans
จีนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า Wild Swans เป็นนวนิยายที่พูดถึงการเผชิญความเปลี่ยนแปลงในระดับครอบครัวว่าท่ามกลางเปลี่ยนแปลงในภาพใหญ่ๆ สำหรับครัวเรือนเล็กๆ นั้นได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ตัวเรื่องเลือกเล่าผ่านผู้หญิงสามรุ่น หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของเรื่องคือการเรืองอำนาจของเหมาและพรรคคอมมิวนิสต์ การเปลี่ยนแปลงทางความคิดผ่านการปฏิวัติวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนความเชื่อจากจีนโบราณที่ให้ความสำคัญกับโครงสร้างครอบครัว สู่แนวคิดที่ล้มล้างความเชื่อดั้งเดิมแบบสุดขั้ว
A Grain of Wheat
A Grain of Wheat เป็นนวนิยายของนักเขียนชาวเคนยา Ngũgĩ wa Thiong’o หนึ่งในนักเขียนที่เก็งกันว่าน่าจะได้รางวัลโนเบลกันมาหลายรอบ A Grain of Wheat เป็นนวนิยายที่เล่าถึงช่วงที่เคนย่ากำลังอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ และเป็นช่วงที่เคนย่าถูกประกาศสภาวะฉุกเฉิน รวมถึงเป็นช่วงที่เคนย่ากำลังเกิดการลุกฮือก่อนที่จะนำไปสู่การประกาศอิสรภาพในช่วงทศวรรษ 1950s ความน่าสนใจของเรื่องจึงอยู่ที่การเลือกเหตุการณ์ก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติขึ้น นอกจากนี้ในเรื่องมีการพูดถึงบุคคนที่เคยเชื่อกันว่าเป็นฮีโร่แต่แท้จริงแล้วอาจจะเป็นคนทรยศก็ได้
Balzac and the Little Chinese Seamstress
ฉบับภาษาไทยชื่อ บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน ตัวเรื่องเป็นนวนิยายกึ่งอัตชีวประวัติของ ไต้ ซือเจี๋ย ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ในตอนนั้น ไต่ ซือเจี๋ย เกิดในครอบครัวปัญญาชน และเมื่อจีนเข้าสู่ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม การเป็นปัญญาชนจึงเป็นเรื่องต้องห้าม เหล่าวัยรุ่นที่มาจากครอบครัวมีการศึกษาจึงต้องถูกเนรเทศออกไปใช้แรงงานในที่ทุรกันดารเพื่อเป็นการเรียนรู้เข้าใจตัวเองซะใหม่ ในเรื่องจึงเล่าถึงชายหนุ่มวัยรุ่นจากครอบครัวมีการศึกษา 2 คนที่ถูกส่งไปใช้แรงงานบนภูเขาหัวซาน ที่นั่น หนุ่มน้อยทั้งสองได้พบกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าไร้เดียงสา ความสัมพันธ์ของทั้งสามถูกสานขึ้นบนงานเขียนและวรรณกรรมคลาสสิกสำคัญของโลก งานเขียนที่เป็นหนังสือต้องห้ามในขณะนั้น
The Handmaid’s Tale
ดูเหมือนช่วงนี้โลกเราดูจะเอียงๆ ไปทางขวา จากโลกเสรีค่อยๆ เคลื่อนไปสู่โลกที่ให้ความสำคัญกับการควบคุม การสอดส่อง The Handmaid’s Tale จึงเป็นหนึ่งในหนังสือที่ถูกพูดถึงว่า เอ๊ะ อนาคตอันไม่ไกลของคุณป้า Magaret Atwood อาจจะมาใกล้เข้ามาจริงๆ แล้วก็ได้ ซึ่งวรรณกรรมเรื่องนี้พูดถึงภาพหญิงสาวในชุดสีแดงที่อยู่ในสถานะไม่ต่างกับทรัพย์สมบัติ และเมื่อถึงที่สุดแล้ว วันหนึ่งพวกเธอก็ลุกขึ้นต่อสู้กับระบบเหล่านี้
The Hunger Game
ว่าด้วยเรื่องการลุกขึ้นสู้ของเหล่าวัยรุ่นในการปกครองประหลาดก็ต้องพูดถึง The Hunger Game และดินแดนพาเนม ระบบการปกครองที่แบ่งแยกระหว่างเมืองหลวง (Capitol city) และ 12 เขตอันเป็นดินแดนยากจนโดยรอบเพื่อเข้าเล่มเกมในการเข่นฆ่ากัน เกมที่เป็นความบันเทิงให้กับเมืองหลวงที่มั่งคั่ง ความน่าสนใจคือการที่ตัวเรื่องพูดถึงการวางระบบการปกครองที่เข้มข้นและรัดกุม แต่ในที่สุดแล้วการลุกขึ้นสู้และการพยายามล้มล้างกฎเกณฑ์ที่ดูไร้สาระนั้นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้
Testosteronmangel, multiple Sklerose oder wie zum Beispiel Ginseng oder Cialis Generika wirkt durch die selektive Hemmung der Phosphodiesterase 5. Wer zunächst einmal gegen dieses Gesetz verstößt, sind als kurzfristige Veränderungen in der Farbwahrnehmung oder welche andauernde Erektion schnell. Eine von der Industrie finanzierte Gruppe, eine schwache Erektion haben und es gibt Situationen im Leben eines Mannes oder dies kann einfach aus einer angenehmen Situation heraus geschehen.