หนังสือไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องด้วยตัวอักษรเสมอไป การเล่าเรื่องผ่านภาพก็สามารถสื่อสารและน่าสนใจได้เช่นกัน
ทีมกราฟิก The MATTER พาไปส่องหนังสือน่ากรี๊ดในงาน Bangkok Art Book Fair 2018 ซึ่งจัดปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว และได้ขยายเครือข่ายกลุ่มผู้จัดทำสิ่งพิมพ์ให้กว้างกว่าปีที่ผ่านมา งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมปล่อยของมากมาย ซึ่งก็มีตั้งแต่ศิลปินอิสระ กราฟิกเฮาส์ สำนักพิมพ์ ร้านหนังสืออิสระ ได้มาพบปะพูดคุย และโชว์ผลงานแบบจัดเต็ม
งานปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน ที่ BANGKOK CITYCITY GALLERY เดินทางสะดวกห่างจาก MRT ลุมพินีไม่มีมากนัก ใครสนใจก็กำเงินไปกันได้เลยจ้า
THE UNI_VERSE Issue 2 จาก THE UNI_FORM Design Studio
โปรเจกต์สุดอลังการที่สะเทือนไทม์ไลน์เฟซบุ๊กเมื่อปีก่อนอย่าง THE UNI_VERSE หนังสือที่ว่าด้วยการเดินทางไปในห้วงอวกาศ ความพิเศษของหนังสือชุดนี้คือมีผลงานมันๆ จากเหล่าดีไซเนอร์ในสตูดิโอ และ Guest Contributor จำนวนมาก
THE UNI_VERSE ทำออกมาจำนวนจำกัด แถมทุกๆ เล่มปกจะไม่ซ้ำกัน และแต่ละปกมีแค่เล่มเดียว (พิเศษแล้วพิเศษอีกจนอยากจะซื้อให้มันรู้แล้วรู้รอด) และในปีนี้ THE UNI_VERSE ก็กลับมาใน issue 2 ด้วยคอนเซ็ปต์ OPEN / CODE จำกัดแค่ 100 เล่มเท่านั้น ต้องเร็วนะ!
This isn’t not… จาก Practical Design Studio
หนังสือเชิงทดลองจาก Practical Design Studio ที่ออกแบบกระบวนการทำงานร่วมกันของนักออกแบบ PRACTICAL ผ่านการนำเสนอตัวตน และเรื่องราวเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน โดยเป็นการตัดวางแบบสุ่ม (คละกัน)
EMPTINESS จาก Wide Narrow
Wide Narrow ฉีกกรอบไปจากเจ้าอื่นๆ โดยทำออกมาเป็นบันทึกกลอนเรื่องผู้ป่วยโรคซึมเศร้า พิมพ์ลงไปในฟอร์มของผ้าพันคอ แทนการโอบกอดหรือปลอบประโลม ตรงปลายผืนผ้าอีกฝั่งเป็นรูปมือชูนิ้วกลาง เป็นกิมมิกเล็กๆ ที่เปิดโอกาสให้เราได้ตีความอย่างอิสระ
Undone จาก Archivist
หนังสือว่าด้วยความเศร้าที่สวยงามในชีวิต เป็นการเขียนเชิงเปรียบเทียบ ว่าความเศร้าแม้จะเจ็บปวด แต่ก็ทำให้เราเติบโต ซึ่งกิมมิกตรงนี้ Archivist ได้ใช้เทคนิคซิลค์สกรีน (silkscreen) ซึ่งเป็นเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ของสตูดิโอถ่ายทอดออกมาเป็นรูปเปลือกที่แอบซ่อนการเติบโตไว้ด้านหลัง เรียกว่าสื่อสารเรื่องราวกับเทคนิคที่ยังคงความเป็น Archivist เลยทีเดียว
Match Book จาก Teaspoon Studio
Give yourself some space because it’s ok to feel shit sometime…
อาร์ตบุ๊กที่มาในรูปแบบของ Match Book สื่อสารในเชิงเตือนใจตัวเองผ่าน 7 วิธีที่จะหนีออกจากความเบื่อหน่าย และให้พื้นที่กับตัวเองบ้าง และเป็นวิธีที่เป็นไปไม่ได้เลยซักข้อ อย่างเช่น ขอให้มนุษย์ต่างดาวมาลักพาตัวไปเสีย แต่แล้วยังไงล่ะ ก็ให้พื้นที่ตัวเองได้คิดเรื่องเป็นไปไม่ได้บ้างจะเป็นอะไรล่ะเนอะ
Postcard set จาก P Library Studio
หนังสือทำมือที่ให้เลือกหยิบโปสการ์ดใบไหนก็ได้ที่ชอบจากสตูดิโอ จำนวน 6 ใบ
กระทบไหล่คนดัง!
เนื่องจากเป็นงานที่รวมคนคอเดียวกัน จึงมีโอกาสสูงมากที่เดินๆ อยู่ อาจจะเผลอไปกระทบไหล่คนที่เราติดตามผลงานมานาน
Checkpoint 01 : โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบ / มาเดินชมงาน
Checkpoint 02 : โอ๊ต-มณเฑียร นักวาดภาพประกอบ / อยู่ที่บูธ 50
Checkpoint 03 : ธนวัต ศักดาวิษรัดษ์ นักวาดภาพประกอบ / แสดงผลงานอยู่ที่บูธ 25
และอีกมากมายที่ถ้าไม่คลาดกัน หรือมองไม่เห็นเพราะคนเยอะมากก็อาจจะได้เจอตรงหน้าพอดิบพอดี
สำหรับคนที่ไม่อยากเข้าไปเดินเบียดในงาน ก็มีโซนให้ดูตัวอย่างผลงานที่ขายภายในงาน ถ้าชมผลงานแล้วอดใจไม่ไหวก็สามารถตั้งบูธเป้าหมายไว้ในใจและวิ่งเข้าไปซื้อได้ในทันที หรือจะใช้เป็นแลนด์มาร์กในการนัดเจอเพื่อนก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว
Bangkok Art Book Fair 2018 เป็นเหมือนพื้นที่พบปะของคนที่มีความชอบคล้ายๆ กัน แต่ขระเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายอย่างชัดเจน
ไม่ว่าคุณจะเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตข้องเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์โดยตรง หรือแค่สนใจในงานสิ่งพิมพ์ งานศิลปะ Bangkok Art Book Fair ก็อาจสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มาในงาน ได้แลกเปลี่ยน ถ่ายทอด ส่งต่อ หรือจุดประกายความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้ แม้ไม่ต้องสื่อสารกันด้วยคำพูดตรงๆ