ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลัง ‘แสนดี—แสนปิติ สิทธิพันธุ์’ อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และลูกชายของ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้ออกมาวิจารณ์พรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุนของพรรค ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัววานนี้ (17 กรกฎาคม) จนเจ้าตัวต้องออกมาโพสต์ข้อความ และปล่อยวิดีโอคำขอโทษในภายหลัง
จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้คนต่างจับตาท่าทีของชัชชาติ ว่าจะออกมาให้ความเห็นอย่างไร ซึ่งในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ เมื่อช่วงสายวันนี้ (18 กรกฎาคม) สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้ต่อสายพูดคุยกับผู้ว่าฯ กทม.
เริ่มต้นในฐานะพ่อ ชัชชาติ เล่าว่า ตอนแรกที่ได้ยินเรื่องนี้ก็ตกใจ จึงได้คุยกับบุตรชายว่าให้ใจเย็นๆ อย่าไปโพสต์เรื่องการเมืองมาก ยังไงก็สนับสนุนเขาอยู่แล้ว ซึ่งเข้าก็โตพอแล้ว อายุ 23 ปี จะอ้างความเป็นเด็กไม่ได้
“ผมไม่ได้เห็นด้วยกับทุกอย่างที่เขาพูด บางอย่างใช้ความเห็นที่ไม่เหมาะสม อยากให้เขาโพสต์เรื่องที่สร้างสรรค์ อย่าไปพูดไม่ดีกับเรื่องของคนอื่นเป็นแนวที่ปฏิบัติกันมาตลอด ก็คงต้องคุยกันพอลูก ผมอาจจะไม่ค่อยได้คุยกับเขามากช่วงนี้”
ทั้งนี้ ชัชชาติ ระบุว่า รู้สึกดีใจที่ลูกชายโพสต์ข้อความขอโทษ โดยตนเองไม่ได้เป็นคนบังคับ ให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะตอนเขาโพสต์เขาก็ไม่ได้ขอเรา และเขาตัดสินใจโพสต์ขอโทษเอง “เรื่องการเมืองอย่าไปพูดเลยแสนดี ถ้ารู้สึกว่าผิด ไม่เหมาะสม ก็ควรจะขอโทษ”
“เป็นบทเรียนสำคัญทั้งพ่อ ทั้งลูก” ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับ
ชัชชาติ ระบุว่า คงไม่สามารถขอโทษแทนเขาได้ แต่คงต้องขอโทษในส่วนที่บกพร่องไปที่ไม่ได้สื่อสารกันเพียงพอ “ไม่มีข้ออ้าง จะบอกว่าเด็กไม่ได้แล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้วก็ต้องรับผิดชอบการกระทำ รอบคอบกว่านี้ ทุกอย่างพูดออกไปคำพูดเป็นนายเรา”
“เป็นกรรม มาจากการกระทำ ต้องเรียนรู้ว่าถ้าเราไม่รอบคอบจะมีผลกระทบกลับมา เป็นบทเรียนให้เขาเรียนรู้ ขอโทษทุกคนในส่วนที่ผมรับผิดชอบ” ชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย
ย้อนไปดูตัวอย่างความเห็นของแสนดีที่เป็นประเด็นวิจารณ์อย่างรุนแรง เช่น “การแก้ไข ม.272 จะไม่มีวันเกิดขึ้น” “พิธาจะไม่มีวันเป็นนายกฯ” รวมถึงประเด็นที่แสนดีระบุว่า “คุณ [พรรคก้าวไกล] ไม่ได้มีนโยบายเศรษฐกิจที่จับต้องได้ ทุนผูกขาดและบรรษัทใหญ่ไม่ได้ต้องการให้คุณอยู่ในอำนาจ ชาวนาต้องการเพียงนโยบายแจกเงินสดเท่านั้น ไม่ใช่ ‘gender ideology’ หรือ ‘woke performative bullshit’”
แต่ข้อความที่ดูจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้สนับสนุนพรรค แสนดีระบุว่า “โดยสรุปแล้ว ไม่มีใครต้องการให้คุณอยู่ในอำนาจ มีเพียง ‘bratty teenagers’ (วัยรุ่นที่มีแต่ตัวเองเป็นศูนย์กลาง) และ ‘disobedient children’ (เด็กไม่เชื่อฟังพ่อแม่) เท่านั้น”
อ้างอิง
youtube
