เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกได้เผยแพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ว่าด้วยการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด พร้อมระบุให้ยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 31 ตุลาคม 2564
สำหรับพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวทั้ง 17 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพฯ, กระบี่, ชลบุรี (เฉพาะ อ.บางละมุง เมืองพัทยา ศรีราชา เกาะสีชัง และสัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียน และ ต.บางเสร่), เชียงใหม่ (เฉพาะ อ.เมืองเชียงใหม่ ดอยเต่า แม่ริม และแม่แตง), ตราด (เฉพาะ อ.เกาะช้าง), บุรีรัมย์ (เฉพาะ อ.บุรีรัมย์), ประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะ ต.หัวหิน และ ต.หนองแก),
พังงา, เพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ), ภูเก็ต, ระนอง (เฉพาะเกาะพยาม), ระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด), เลย (เฉพาะ อ.เชียงคาน), สมุทรปราการ (เฉพาะบริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ), สุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า), หนองคาย (เฉพาะ อ.เมืองหนองคาย สังคม ศรีเชียงใหม่ และท่าบ่อ) และอุดรธานี (เฉพาะ อ.เมืองอุดรธานี บ้านดุง กุมภวาปี นายูง หนองหาน และประจักษ์ศิลปาคม)
ราชกิจจานุเบกษายังแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 36) ซึ่งมีสาระคือให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวโดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 31 ตุลาคม 2564
ห้ามจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มมากกว่า 500 คนในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ในส่วนของการเปิดสถานบริการ เช่น ผับ บาร์ ในระยะแรกของการเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวให้ปิดไปก่อน แต่ให้เตรียมความพร้อมสำหรับการผ่อนคลายมาตรการภายหลัง
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดประเทศที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว 46 ประเทศตามที่ ศปก.กต.ได้ประกาศไว้ คือ ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, บาห์เรน, เบลเยียม, ภูฏาน, บรูไนดารุสซาลาม, บัลแกเรีย, กัมพูชา, แคนาดา, ชิลี, จีน, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, อิสราเอล, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลัตเวีย,
ลิทัวเนีย, มาเลเซีย, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์, สโลวีเนีย, สาธารณรัฐเกาหลี, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง
โดยผู้เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้ต้องฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ มีผลตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อ COVID-19 รวมถึงต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีหลักฐานการชำระค่าที่พัก
อ้างอิงจาก
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2564/E/256/T_0001.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2564/E/256/T_0007.PDF
https://www.isranews.org/…/103543-isranews_news-184…
https://mgronline.com/politics/detail/9640000104603