ใครโมโหหิวบ่อยๆ ฟังทางนี้ งานวิจัยเพิ่งยืนยันว่า อาการหิว-ไม่มีอะไรตกถึงท้อง ทำให้คนรู้สึกโกรธและโมโหได้จริงๆ เตรียมอ่านแล้วโชว์ผลวิจัยนี้ให้เพื่อนที่ไม่เชื่อว่าอาการ ‘โมโหหิว’ มีอยู่จริงได้เลย!
การศึกษาวิจัยโดยคณะผู้วิจัยจากอังกฤษ ออสเตรีย และมาเลเซีย พบว่า ความหิวส่งผลกระทบต่ออารมณ์ได้จริง โดยคณะผู้วิจัยระบุว่า ยิ่งหิวมากเท่าไหร่ คนยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
การศึกษาวิจัยนี้เริ่มต้นจากการที่ศาสตราจารย์ วีเร็น สวามี่ (Viren Swami) นักจิตวิทยาสังคมจากมหาวิทยาลัยแองเกลียรัสกิน ณ ประเทศอังกฤษ ถูกเตือนว่าเขาเป็นคนโมโหหิว ซึ่งทำให้เขาสงสัยว่าอาการโมโหหิวมันมีอยู่จริงหรือไม่
ทำให้สวามี่จับมือกับนักวิจัยชาติอื่น และเริ่มทำการศึกษาวิจัยโดยการชวนคนอายุระหว่าง 18-60 ปีมา 64 คน จากนั้นให้พวกเขาบันทึกอารมณ์และระดับความหิวผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์วันละ 5 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์
ผลก็คือ คณะผู้วิจัยพบว่าอาการโมโหหิวมันมีอยู่จริง พวกเขาพบว่าความหิวเกี่ยวข้องกับอารมณ์โกรธ ฉุนเฉียว และระดับความพึงพอใจจริงๆ และสร้างผลกระทบยิ่งใหญ่มาก แม้ว่ากลุ่มตัวอย่างจะแตกต่างกันทางอายุ เพศ ดัชนีมวลกาย (BMI) พฤติกรรมการบริโภค และอุปนิสัยส่วนตัว
“งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาทดสอบอาการ ‘โมโหหิว’ นอกห้องปฏิบัติการครั้งแรก เราทำการติดตามชีวิตประจำวันของผู้คน และก็พบว่า ความหิวเกี่ยวข้องกับระดับความโกรธ ความฉุนเฉียว และความพึงพอใจ” สวามี่ ผู้เป็นแรงหลักของงานวิจัยนี้ กล่าว
แล้วทำไมความหิวถึงเกี่ยวข้องกับอารมณ์ คณะผู้จัยเสนอข้อสันนิษฐานไว้ว่า เมื่อค่าน้ำตาลในเลือดต่ำลง (จากการไม่ได้กินข้าว) จะทำให้ระดับความโกรธ หุนหันพลันแล่น และความก้าวร้าวเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดอยู่ดีว่าอัตราน้ำตาลในเลือดที่ลดลงเพียงนิดเดียวจะทำให้เสียความสามารถในการควบคุมตัวเอง
ทั้งนี้ งานวิจัยไม่ได้เสนอทางออกให้อย่างชัดเจน แต่คณะผู้วิจัยเชื่อว่า การรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองก็อาจช่วยให้สามารถจัดการอารมณ์นั้นๆ ได้ง่ายขึ้น และช่วยชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญว่า เด็กที่ต้องไปเรียนด้วยความหิว อาจมีประสิทธิภาพในการเรียนต่ำลง ทั้งอาจส่งผลกับพฤติกรรมด้านลบอีกด้วย
อ่านจบแล้ว อย่าลืมไปหาอะไรกินด้วยละ
อ้างอิงจาก
https://www.walesonline.co.uk/news/uk-news/scientists-say-being-hungry-can-24418911
https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0269629