“เป็นตำรวจมา 22 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เลย” ตำรวจคนหนึ่งกล่าว เมื่อมีหญิงถูกจับ หลังพาญาติชายคนหนึ่ง(ที่ตำรวจเชื่อว่าเขาตายแล้ว)นั่งรถเข็นเข้าไปในธนาคาร และพยายามให้ศพของชายคนนั้นเซ็นถอนเงินกู้ให้
‘เอริกา เด ซูซา วิเอรา’ หญิงชาวบราซิลวัย 42 ปี พา ‘เปาโล โรแบร์โต บราก้า’ วัย 68 ปีลุงของเธอนั่งบนรถเข็น เข้าไปในธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งพนักงานสังเกตได้โดยทันทีว่าเปาโลดูไม่สบายเอามากๆ โดยเอริกาพยายามให้ลุงของเธอเซ็นสัญญากู้เงินจำนวน 17,000 เรอัล (ประมาณ 120,000 บาทไทย)
ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่เอริกาอยู่ในธนาคารกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย ซึ่งตอนหนึ่งในนั้นแสดงให้เห็นว่า พนักงานทำหน้าเหมือนเพิ่งได้กลิ่นอะไรแปลกๆ แล้วก็ตั้งคำถามว่าทำไมลุงของเอริกาซึ่งผิวซีดขนาดนั้น แต่เอริกาก็บอกว่า ลุงของเธอก็เป็นอย่างนี้ตามปกติ แล้วพยายามเอาปากกาใส่ในมือของเปาโล
พนักงานเริ่มบันทึกข้อมูลการให้บริการเมื่อเห็นว่าน่าสงสัย ซึ่งจากภาพจะเห็นได้ว่า เอริกาพยายามจับหัวของเปาโลให้ตั้งตรง จับแขนขวาของเขาไปเซ็นเอกสารบนโต๊ะ และพูดกับเขาในเชิงบ่นว่าเขาจะต้องเซ็นได้แล้ว “ฉันเซ็นให้คุณไม่ได้…ถ้าคุณไม่เซ็น ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว…เซ็นเถอะ ฉันปวดหัวมากแล้วนะ” เธอพูดในขณะนั้น
หลังจากนั้น พนักงานก็โทรแจ้งตำรวจ ทำให้เอริกาถูกจับกุมด้วยความผิดฐานละเมิดศพ และพยายามฉ้อโกงในการกู้เงิน ซึ่งฟาบิโอ ลุยส์ ซูซา เจ้าหน้าที่สืบสวนยืนยันกับสำนักข่าวว่า “เธอต้องรู้แน่ๆ ว่าเขาตายแล้ว เขาตายมาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงแล้ว” โดยชี้ว่ารอยเขียวช้ำที่เกิดหลังการตายนั้นเป็นสัญญาณที่ยืนยันการเสียชีวิตของเปาโลได้ชัดเจน
อย่างไรก็ดี ทนายของเอริกาออกมายืนยันกับสื่อมวลชน ว่าเขาเชื่อว่าเอริกาบริสุทธิ์ “ข้อเท็จจริงคือ เปาโลยังมีชีวิตอยู่ตอนมาถึงธนาคาร…เรื่องทั้งหมดจะคลี่คลายอย่างแน่นอน” เขาบอก และอ้างว่ามีพยานยืนยันได้ ในขณะที่ฟาบิโอบอกว่า “ใครได้เห็นภาพ ก็บอกได้ทั้งนั้น ว่าเขาเสียชีวิตแล้ว”
ขณะนี้ตำรวจยังสืบว่าเอริกาเป็นญาติของเปาโลจริงหรือเปล่า รวมถึงพยายามค้นหาคนขับรถที่พาเอริกากับเปาโลไปธนาคารอยู่ เพื่อค้นหาคำตอบว่าใครเป็นคนพาเปาโลขึ้นรถ และทำด้วยวิธีการไหน แต่สภาพศพของเปาโลชี้ว่าเขาตายในท่านอน ไม่ใช่ท่านั่ง ผลของคดีนี้จึงต้องติดตามต่อไปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่
อ้างอิงจาก