ปฏิเสธไม่ได้ว่าแอปพลิเคชั่นยอดฮิตอย่าง TikTok กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือคู่ใจของชาว Gen Z ที่เป็นทั้งเครื่องมือค้นหา (search engine) รับข้อมูลข่าวสาร หรือเอาไว้ดูคอนเทนต์สนุกๆ ที่หลากหลาย ซึ่งสิ่งที่ทำให้ TikTok แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่นๆ คือการเติบโตอย่างรวดเร็ว และความปัจจุบันทันด่วนที่เกิดขึ้นในนั้น
แอปพลิเคชัน TikTok เปิดตัวในปี 2017 และรวมเข้ากับแอปพลิเคชัน ลิปซิงค์ Musical.ly ในปี 2018 จนกระทั่งในปี 2020 TikTok เริ่มได้รับความนิยมอย่างมาก โดยพบว่ามีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีจากประมาณ 40 ล้านรายต่อเดือนเป็นมากกว่า 100 ล้านรายภายในเดือนสิงหาคม
ตามการศึกษาของ Pew Research Center ในปี 2023 ระบุว่า ปัจจุบัน TikTok มีจำนวนผู้ใช้สูงถึง 150 ล้านคน ตามตัวเลขล่าสุดที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แม้ว่าแอปพลิเคชันอื่นๆ อย่าง Instagram, YouTube และ Facebook ยังคงมีผู้ใช้งานที่เป็นคนวัยผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ TikTok ก็กำลังปิดช่องว่างนี้ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่ยังนิ่งอยู่กับที่
แน่นอนว่าผู้ใช้ TikTok มักจะใช้เวลาอยู่กับมันค่อนข้างมาก ซึ่งแอปพลิเคชันนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเสพติด โดยเฉพาะกับผู้ใช้วัยรุ่น นักวิจัยพบว่าผู้ใช้ TikTok มีแนวโน้มที่จะติดการดูวิดีโอสั้นๆ สไตล์ TikTok มากกว่าแอปพลิเคชันอื่น
นักวิจัยของ Baylor ค้นพบว่าผู้ใช้ TikTok ประมาณ 24% อาจเสพติดแอปพลิเคชันขณะที่วัยรุ่นมากกว่าครึ่งหนึ่งที่เข้าร่วมการวิจัยพบว่าใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok ทุกวัน และกว่า 17% ในนั้นใช้ TikTok แทบจะทั้งวัน และกว่า 1 ใน 3 ของคนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี กำลังรับข่าวสารจาก TikTok เพียงช่องทางเดียวอยู่เป็นประจำ
แต่สิ่งที่น่าสนใจรองลงมาจากความนิยมในการใช้งาน คือความกังวลด้านเนื้อหา มีงานวิจัยหลายชิ้นที่แนะว่าการใช้ TikTok จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ ‘มุมมองทางการเมืองของเรา’ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เรามักจะเห็นผู้นำในหลายๆ ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) ใช้งาน TikTok ในการเผยแพร่เนื้อหาของพวกเขา
แล้วการเมืองบน TikTok มันน่ากังวลอย่างไร?
ด้วยลักษณะวิดีโอแบบสั้น และอัลกอริธึมอันทรงพลังสุดลึกลับของ TikTok ทำให้ผู้ใช้งานติดใจและเริ่มเสพติด ตามมาด้วยการมีอารมณ์ร่วมไปกับวิดีโอเหล่านั้น ขณะที่เนื้อหาในแอปพลิเคชัน ก็จะเป็นเนื้อหาที่สะเทือนอารมณ์ อิงตามความรู้สึก และมักจะนำเสนอผ่านบุคคลทั่วไปที่แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ ของตัวเอง ซึ่งมักไม่ใช่แหล่งที่มาที่เชื่อถือได้
นักวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับ TikTok และการแสดงออกทางการเมืองของเยาวชน เขียนรายงานในปี 2023 ไว้ว่า การแสดงออกทางการเมืองส่วนใหญ่ที่เราพบใน TikTok นั้นมีทั้งความตลก และไม่ตลก เต็มไปด้วยสีสันที่มักจะเกินจริง มันเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งที่มีตั้งแต่เสียงหัวเราะไปจนถึงน้ำตา
“มักจะเป็นเรื่องหรือความคิดเห็นส่วนตัว โดยตีกรอบประเด็นทางการเมืองผ่านประสบการณ์ส่วนตัวและโลกทัศน์ของคนหนุ่มสาว การพูดจาโวยวายและการแสดงความคิดเห็นอย่างรวดเร็วตรงไปตรงมาจากบุคคลในคลิป ให้ความรู้สึกจริงใจ เป็นกันเอง และเป็นจริง แม้ว่าเนื้อหาของสิ่งที่พวกเขาพูดจะทำให้เข้าใจผิดหรือไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมดก็ตาม” นักวิจัยอธิบายและบอกต่อว่า การออกแบบของแพลตฟอร์มดังกล่าวทำให้พื้นที่ทางการเมืองบน TikTok แตกต่างจากอัลกอริธึมหรือฟีดของโซเชียลมีเดียอื่นๆ
ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะไถฟีดอยู่ที่หน้า ‘For You’ ที่อัลกอริทึมแนะนำให้กับผู้ใช้ ซึ่งจะฟีดเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เราสนใจ และแอปพลิเคชันจะติดตามการตอบสนองของเราเพื่อดูว่าเรามีส่วนร่วมกับเนื้อหาเหล่านั้นอย่างไรบ้าง ซึ่งนั่นเป็นเหมือนการสร้างห้องสะท้อนเสียง (Echo chamber) ที่เราจะวนเวียนอยู่กับความคับข้องใจหรือความกังวลใดๆ ที่เหมือนกับคนที่มีความสนใจเหมือนกับเรา และเราก็จะไม่ได้เห็นมุมมองอื่นๆ ข้างนอกห้องห้องนี้
อ้างอิงจาก