ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ‘นกเพกวินแอฟริกัน’ จะสูญพันธุ์ภายใน 10 ปี
ศูนย์กฎหมายความหลากหลายทางชีวภาพ กล่าวว่า จำนวนเพนกวินได้ลดลงจาก 15,000 ตัวในปี 2018 เหลือเพียงเกือบ 9,000 ตัวเมื่อสิ้นปี 2023 และระบุว่าหากอัตราการลดลงในปัจจุบันยังคงอยู่ เพนกวินแอฟริกันอาจสูญพันธุ์ภายในปี 2035
แต่ตอนนี้ ได้มีความพยายามอีกขั้นหนึ่ง ที่จะหยุดยั้งการสูญพันธุ์ของนกเพนกวินแอฟริกัน เมื่อนักอนุรักษ์และกลุ่มอุตสาหกรรมการประมงของแอฟริกาใต้ได้บรรลุข้อตกลงทางกฎหมาย สั่งเขตห้ามทำการประมงรอบ ๆ อาณานิคมการเพาะพันธุ์หลัก 6 แห่งของนกเพนกวิน
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว BirdLife South Africa และมูลนิธิ Southern African Foundation for the Conservation of Coastal Birds (Sanccob) ได้เริ่มดำเนินการทางกฎหมาย เป็นคดีแรกเกี่ยวกับเรื่องนี้ในแอฟริกาใต้
พวกเขากล่าวหาว่า รัฐมนตรีไม่สามารถปกป้องสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ได้อย่างเหมาะสม และล้มเหลวในการปฏิบัติตามคำแนะนำจากคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ ที่รัฐบาลนำมาปรับใช้เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อเพนกวินแอฟริกัน
ศาลสูงพริทอเรียในแอฟริกา จึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ให้กำหนดเขตห้ามทำการประมงรอบอาณานิคมเพาะพันธุ์เพนกวินแอฟริกันที่หลัก 6 แห่ง เป็นเวลา 10 ปี หรือก็คือ ไปจนถึงปีที่ทำนายไว้ว่าเพนกวินจะสูญพันธุ์นั่นเอง
นิคกี้ สแตนเดอร์ (Nicky Stander) หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ของ Southern African Foundation for the Conservation of Coastal Birds (SANCCOB) กล่าวว่า “คำสั่งในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้ของเราเพื่อช่วยเหลือเพนกวินแอฟริกันจากการสูญพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เรายินดีกับความสำเร็จในวันนี้ เรายังคงตระหนักดีว่าการเดินทางของเรายังไม่สิ้นสุด ภัยคุกคามที่เพนกวินแอฟริกันต้องเผชิญนั้นซับซ้อน และยังคงดำเนินต่อไป”
บ็อบ เฟอร์เนส (Bob Furness) ศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการอิสระที่เสนอให้ปิดการประมงในปี 2023 กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่ได้ยินว่าในที่สุดก็มีการตกลงกันเรื่องการปิดเกาะ” แต่เขายังบอกว่า มันเป็นนโยบายที่มีประโยชน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เฟอร์เนสอธิบายเพิ่มเติมว่า “สิ่งเหล่านี้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอหากเพนกวินยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยต่างๆ หลายประการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากปริมาณชีวมวลของปลาซาร์ดีนทั้งหมดยังคงเสี่ยงต่อการถูกใช้มากเกินไป เมื่อมีปริมาณประชากรต่ำ”
เพราะนอกจากเรื่องนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชากรนกเพนกวิน ได้แก่ วิกฤตสภาพอากาศ สัตว์นักล่าบนบก และมลพิษทางเสียงจากการเติมน้ำมันระหว่างเรือใกล้เมือง Gqeberha อีกด้วย
อ้างอิงจาก