ในยุคที่คำว่า ‘สุขภาพดี’ กลายเป็นเป้าหมายของคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ
ตั้งแต่การปรับเปลี่ยน Daily routine การออกกำลังกาย ไปจนถึงการเลือกอาหารการกิน โดยเฉพาะการใส่ใจสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งหนึ่งในเทรนด์ที่เติบโตอย่างชัดเจนที่สุดคือ ‘โปรตีน’ ที่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นของเฉพาะกลุ่มคนชอบออกกำลังกายอีกต่อไป แต่กลายเป็นหนึ่งในหมวดโภชนาการ ที่ผู้บริโภคทั่วไปให้ความสนใจมากขึ้น
เพราะโปรตีนคือหัวใจของการดูแลร่างกายให้แข็งแรงในทุกวัย จึงทำให้แบรนด์น้องใหม่อย่าง Proten จับเทรนด์นี้ไว้อย่างแม่นยำ ผ่านคอนเซปต์เครื่องดื่มโปรตีนที่เหมาะสำหรับทุกคน ด้วยการชูจุดเด่น Duo Protein concentrate ที่ยังไม่เคยมีแบรนด์ไหนทำมาก่อน
The MATTER ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณจิตรภณ ไตรรัตน์วรวุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์โปรเท็น ถึงเบื้องหลังการเกิดขึ้นของ Proten กับแนวคิดในการสร้างแบรนด์โปรตีนที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ และมุมมองต่ออนาคตของตลาดสุขภาพที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไทย

จากเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง มองปรากฏการณ์นี้อย่างไร
จริงๆ เทรนด์สุขภาพเป็นเทรนด์ระดับโลก ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประเทศไทย ทุกคนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งในแง่การกินและการออกกำลังกาย โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่คนเริ่มเลือกกินวีแกน มังสวิรัติ หรืออาหารจากพืชกันมากขึ้น และที่เห็นชัดคือการให้ความสำคัญกับ ‘โปรตีน’ ซึ่งตอนนี้คนเข้าใจมากขึ้นว่าโปรตีนไม่ใช่แค่สำหรับคนออกกำลังกาย แต่เป็นสารอาหารสำคัญต่อทุกคน เพราะการดูแลสุขภาพเริ่มจากเรื่องอาหาร เพราะเป็นวิธีง่ายที่สุด ทุกคนรู้ว่าออกกำลังกายดี แต่จริงๆ แล้วอาหารมีผลต่อสุขภาพมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ การเลือกกินของดีมีประโยชน์จึงสำคัญมาก และคนไทยเองก็เริ่มตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงมองว่าเทรนด์สุขภาพจะอยู่กับเรายาวอีกหลายสิบปีหลังจากนี้
เทรนด์การบริโภคโปรตีนในตลาดไทยตอนนี้เป็นอย่างไร
สำหรับสินค้าที่เป็นกลุ่มโปรตีนในไทยมีแนวโน้มโตขึ้นทุกปี และโตในระดับหลายหลักด้วย ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับสินค้าที่มีโปรตีนสูงมากขึ้น และไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มคนออกกำลังกายเท่านั้น จะเห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ High Protein จะออกมาในช่วงหลังเยอะมากๆ พอตลาดมีความต้องการแบบนั้น High Protein ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบของนมอย่างเดียวแล้ว จะมีความหลากหลายในแง่ของรูปแบบของสินค้า เป็นทั้งนม หรือ plant based ได้ ซึ่งผมมองว่าตลาดของ High Protein มีแนวโน้มโตขึ้นอีกเรื่อยๆ ทุกปี

สะท้อนว่าตลาดเริ่มขยายและแมสมากขึ้นขนาดไหน
คนที่สนใจโปรตีนไม่ได้มีแค่กลุ่มคนออกกำลังกายอีกต่อไป แม้จุดเริ่มต้นของตลาด High Protein จะมาจากคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรง เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ จึงทำให้กลุ่มสายออกกำลังกายเป็นคนให้ความสำคัญอันดับต้นๆ ในตลาดบ้านเรามาก่อน แต่เมื่อศึกษาตลาดในช่วงหลังจะเห็นชัดว่าผู้บริโภค High Protein ขยายไปสู่คนส่วนใหญ่แบบเราๆ โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศที่มีเวลาจำกัดในการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จึงหันมาหาสินค้าที่สะดวกและได้สารอาหารครบขึ้น สินค้า High Protein เลยตอบโจทย์มาก แทนที่จะเผลอหยิบของหวานหรือของที่มีน้ำตาลในช่วงกลางวันบ่ายๆ ก็เปลี่ยนมาจับขวดโปรตีนที่ดื่มง่ายและมีประโยชน์ ส่งผลให้ตลาดเติบโตมาก ตอนนี้มันไม่ใช่แค่ niche แล้ว แต่กลายเป็น mass ที่ใครๆ ก็สามารถบริโภคโปรตีนได้

การเกิดขึ้นของแบรนด์ใหม่ Proten มีจุดเริ่มต้นจากอะไร
ผู้บริโภคก็มีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เขาอยากได้สินค้าที่เกิดมาเพื่อพวกเขาจริงๆ เราเลยมองว่าถึงเวลาที่ต้องสร้างแบรนด์เฉพาะทางด้านโปรตีนอย่างแท้จริง จึงเกิดเป็น ‘Proten’ ชื่อที่ผสมระหว่าง Pro มืออาชีพ และ Ten คือคุณประโยชน์หลากหลาย พ้องเสียงคล้าย ‘Protein’ เพื่อสื่อสารตรงไปตรงมา ว่านี่คือแบรนด์โปรตีนของคนยุคใหม่
Proten แตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร
จุดต่างหลักคือการใช้แนวคิด ‘Duo Protein Concentrate’ ซึ่งเป็นการรวมโปรตีน 2 ชนิดไว้ในขวดเดียว ได้แก่ Whey Protein Concentrate ที่ร่างกายดูดซึมเร็ว ให้พลังและความสดชื่นทันที และ Micellar Casein ซึ่งย่อยช้า ทำให้รู้สึกอิ่มนานและช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อในระยะยาว พูดง่ายๆ คือ Proten ทำงาน 2 จังหวะ ดูดซึมไวและอยู่ท้องนาน นอกจากนั้นเราให้ปริมาณโปรตีนสูงสุดในตลาดตอนนี้ที่ 35 กรัมต่อขวด พร้อม BCAA (Branched-Chain Amino Acids) ที่เป็นกรดอะมิโนจำเป็นกับร่างกาย ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ มีแคลเซียมสูง ที่สำคัญคือน้ำตาลเพียง 4 กรัม ซึ่งมาจากน้ำตาลในนมตามธรรมชาติ ไม่ได้เติมเพิ่มเลย เพราะผู้บริโภคยุคนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และที่สำคัญคือเราเป็นแบรนด์แรกในไทยที่นำ Micellar Casein จากบริษัท Müller เยอรมนีมาใช้ ซึ่งถือเป็นโปรตีนคุณภาพสูงมากในยุโรป และยังไม่เคยมีในรูปแบบเครื่องดื่มพร้อมดื่มในไทย จุดนี้ทำให้เราแตกต่างจริงๆ

มีคำแนะนำอย่างไรสำหรับคนทั่วไปที่เริ่มหันมาสนใจเรื่องโปรตีน
วิธีคำนวณปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับต่อวันจริงๆ แล้วไม่ซับซ้อนเลย หลักการง่ายๆ คือใช้น้ำหนักตัวเป็นตัวตั้ง สมมติผู้ชายหนัก 70 กิโลกรัม ก็หมายความว่าในแต่ละวันควรได้รับโปรตีนประมาณ 70 กรัม ส่วนผู้หญิงที่หนักราว 40 – 50 กิโลกรัม ก็ควรได้รับโปรตีนในปริมาณใกล้เคียงกับน้ำหนักตัวของเธอ ซึ่งนี่คือหลักพื้นฐานของคนทั่วไปในการประเมินว่าตนเองได้รับโปรตีนเพียงพอหรือไม่ จากนั้นให้ลองสังเกตดูว่าในแต่ละวันเรากินอะไรเข้าไปบ้าง ตั้งแต่มื้อเช้าจนถึงมื้อเย็น อาหารทั่วไปอย่างหมูหรือไก่หนึ่งมื้อให้โปรตีนประมาณ 10 – 20 กรัมเท่านั้น ซึ่งถ้าคิดดูดีๆ หลายคนอาจไม่ได้รับโปรตีนครบตามที่ร่างกายต้องการ วิธีง่ายที่สุดจึงไม่ใช่การนั่งคำนวณทุกมื้อ แต่คือการเติมโปรตีนเข้าไปให้เพียงพอ เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารที่กินเกินได้ แต่ถ้าขาดจะมีผลต่อร่างกายทันที
อย่าง Proten ให้โปรตีนสูงถึง 35 กรัมต่อขวด ถ้าผู้ชายหนักไม่เกิน 70 กิโลกรัม ดื่มวันละสองขวดก็ได้ครบตามที่ควรได้รับ ส่วนผู้หญิง ขวดเดียวก็แทบจะเพียงพอแล้วในแต่ละวัน แต่ถ้าเป็นกลุ่มที่ออกกำลังกายและต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ก็แนะนำให้เพิ่มเป็น 1.5 – 2 เท่าของน้ำหนักตัว เช่น คนที่หนัก 50 กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีนอย่างน้อย 75 – 100 กรัมต่อวัน เพื่อให้ร่างกายมีวัตถุดิบเพียงพอในการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับคนออกกำลังกาย แนะนำช่วงเช้า หลังออกกำลังหรือก่อนนอน ส่วนคนทั่วไปในแต่ละวันสะดวกตอนไหนก็ดื่มได้เลย อยู่ท้องได้นาน 4 – 8 ชั่วโมง สามารถสร้างโปรตีนได้ทันทีแค่มี Proten ขวดเดียว

หลังเปิดตัว กระแสตอบรับเป็นอย่างไร
ในแง่การตลาด ต้องบอกว่ากระแสของ Proten ตั้งแต่เปิดตัวต้นเดือนกันยายนมานั้นเกินความคาดหมายมาก เราได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทั่วประเทศ ยอดขายในช่วงแรกทะยานขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ และถ้าใครเข้าไปดูในโซเชียลฯ จะเห็นได้ชัดว่าลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์มาก มีทั้งรีวิว ชวนกันลอง และแม้แต่คอมเมนต์บอกต่อว่าสาขานี้หมด สาขานั้นขายเกลี้ยง ซึ่งสำหรับคนทำแบรนด์แล้วถือเป็นภาพที่น่าดีใจมาก เพราะไม่เพียงแต่สินค้าขายดี แต่เสียงตอบรับส่วนใหญ่ยังเป็นคำชม ทั้งในเรื่องรสชาติที่อร่อย โปรตีนที่สูงที่สุดในตลาด และราคาที่เข้าถึงได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกภูมิใจ และในขณะเดียวกันก็เป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เมื่อเห็นความต้องการของตลาดที่สูงเกินคาด เราจึงต้องขยับตามให้ทัน ฝ่ายผลิต โรงงาน ทีม R&D และฝ่ายขายต่างระดมกำลังกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าได้ทันท่วงทีและเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เพราะในมุมของเรา กระแสดีเป็นเรื่องน่ายินดี แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการรักษามาตรฐานและความต่อเนื่องให้ได้ในระยะยาว
การที่สินค้าขาดตลาด กลายเป็นความท้าทายที่มากขึ้นอย่างไร
ประเด็นเรื่องสินค้าขาดตลาด ถ้ามองตามข้อเท็จจริง สินค้าที่ดีควรจะไม่ขาด แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็สะท้อนว่าความต้องการของผู้บริโภคมีมากกว่าที่เราคาดไว้หรือวางแผนไว้ในตอนต้น ซึ่งในฐานะผู้ผลิตถือเป็นสัญญาณที่ดี ว่าสินค้าของเราสามารถสร้างแรงดึงดูดและความเชื่อมั่นได้เร็วกว่าที่คิด เราผ่านการทดสอบ ทดลอง และทำการตลาดอย่างรอบคอบก่อนเปิดตัว จึงมั่นใจอยู่แล้วว่าสินค้าดี แต่เมื่อออกสู่ตลาดจริงแล้วได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย มันก็ทำให้เราต้องเร่งปรับแผนการผลิตครั้งใหญ่ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วน พูดได้ว่าตอนนี้เรายังไม่กล้าบอกว่ามันดีมากที่สุด เพราะเรายังมีภารกิจสำคัญ คือทำให้สินค้าพร้อมส่งต่อความคาดหวังของผู้บริโภคได้ทุกครั้งที่เขาต้องการซื้อ และวันที่เราทำได้ เราสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้ครบถ้วน ค่อยพูดได้เต็มปากว่ามันดีมากจริงๆ

ทำไมถึงพัฒนาออกมาเป็นรสช็อกโกแลตและรสชาไทย อยากให้แตกต่างในตลาดอย่างไร
สำหรับรสชาติเปิดตัวของ Proten เราเลือก ช็อกโกแลต และ ชาไทย เพราะทั้งสองรสมีความหมายและบทบาทที่ต่างกัน แต่เสริมกันได้อย่างลงตัว ช็อกโกแลตถือเป็นรสชาติพื้นฐานของตลาดเครื่องดื่มโปรตีน เป็น must-have flavour ที่ขายดีตลอดกาล และไม่ว่าแบรนด์ใดในกลุ่ม High Protein ก็ต้องมีรสนี้ เพราะผู้บริโภคคุ้นเคยและยอมรับในรสช็อกโกแลตมากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นรสชาติที่ปลอดภัยและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ชาไทย คือการสร้างความแตกต่างที่เราตั้งใจใส่เข้าไปตั้งแต่ต้น เพราะหากออกแต่รสยอดนิยมทั่วไป สินค้าอาจไม่โดดเด่นพอ เราจึงมองหาสิ่งที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นไทยและมีศักยภาพไปได้ไกลในระดับสากล กลายเป็นเทรนด์ระดับโลก เราจึงเห็นว่านี่คือโอกาสดีที่จะสร้างความแตกต่างให้กับตลาด
ส่วนในอนาคต ฝ่ายการตลาดและทีม R&D กำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการพัฒนารสชาติใหม่ๆ ที่จะเพิ่มความหลากหลายและน่าสนใจให้กับผู้บริโภคอีกหลายรูปแบบ เพราะแบรนด์ Proten เกิดมาเพื่อสินค้ากลุ่ม High Protein โดยเฉพาะ เราจึงตั้งใจจะต่อยอดให้ครบทุกมิติ ทั้งในแง่ของรสชาติและรูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพ

อยากฝากอะไรถึงกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองแบรนด์ High Protein ใหม่ๆ
อยากขอบคุณทุกเสียงตอบรับที่อบอุ่นจากผู้บริโภค สำหรับแบรนด์ Proten ซึ่งถือเป็นน้องใหม่ในตลาดเครื่องดื่มกลุ่ม High Protein สิ่งที่เราได้รับตั้งแต่วันแรกไม่ใช่แค่ยอดขายที่ดี แต่คือความไว้วางใจและการพูดถึงอย่างจริงใจจากผู้บริโภค ซึ่งสำหรับคนทำแบรนด์แล้ว นี่คือกำลังใจที่มีค่ามากที่สุด เราก็ให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะพยายามตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ทีมงานของเรามอนิเตอร์ทุกคอมเมนต์ ทุกเสียงสะท้อนบนโซเชียลมีเดีย เพราะเราเชื่อว่าผู้บริโภคคือส่วนสำคัญในการร่วมพัฒนาแบรนด์นี้ไปด้วยกัน
ก็ขอโอกาสให้แบรนด์น้องใหม่อย่าง Proten และในอนาคตอันใกล้ เราจะมีสินค้าใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยคอนเซปต์ดีๆ และคุณค่าที่มากกว่าเดิม มอบให้กับผู้บริโภคอย่างแน่นอน