เป็นอีกครั้งที่วงการการ์ตูนเกิดการทุบทำลายสถิติโลกขึ้น เมื่อภาพวาดที่ไม่ได้ขึ้นปกของการ์ตูนเรื่องดัง ‘การผจญภัยของตินติน (The Adventure of Tintin’) ในตอน ‘The Blue Lotus’ ได้ถูกประมูลซื้อไปด้วยราคา 3.8 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทประมูลงานศิลปะในฝรั่งเศส Artcurial
.
แอร์เช่ ผู้เขียนได้วาดภาพดังกล่าวขึ้นในปี 1936 โดยเป็นภาพของ ตินติน และ โสนว์วี่ สุนัขคู่ใจนั่งอยู่ในไหกระเบื้องดินเผา ขณะที่มังกรตัวสีแดงกำลังขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ในตอนแรก แอร์เช่ ตั้งใจให้มันเป็นภาพปกหนังสือเล่มที่ห้าของเขา ซึ่งเกี่ยวกับการเดินทางไปประเทศจีนในช่วงที่ญี่ปุ่นบุกของตินติน แต่มันถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ามันเป็นหน้าปกที่พิมพ์ซ้ำได้ยากและไม่คุ้มทุน
.
อีริค ลีรอยส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการ์ตูนของ Artcurial ได้กล่าวถึงภาพดังกล่าวว่า มันเป็นภาพที่หายากมากที่สุดภาพหนึ่ง และเคยถูกจัดแสดงอยู่แค่สองที่คือในพิพิธภัณฑ์ของแอร์เช่ และนิทรรศกาลการ์ตูนตินตินในปี 1988 เท่านั้น
.
“แอร์เช่ ได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนภาพนี้จากเพื่อนชาวจีนนาม Chong ที่เขาพบเมื่อปี 1935 ในกรุงบรัสเซล” อีริคเล่าถึงที่มาของภาพนี้ ก่อนกล่าวต่อว่า “ขอบคุณสำหรับการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ภาพนี้สมควรได้รับการบันทึกไว้เป็นสถิติโลก ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ของวงการการ์ตูน”
.
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การ์ตูนเรื่องดังถูกประมูลไปในราคากว่าล้านดอลลาร์ เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2015 ภาพปกของ ‘Tintin and the Shooting Star’ ก็เคยถูกซื้อไปในราคา 2.5 ล้านดอลลาร์มาแล้ว รวมถึงภาพปกตอน ‘Tintin in the Land of the Soviets’ ก็เคยประมูลไปในราคา 1.1 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2019 เช่นกัน
.
แอร์เช่ หรือชื่อจริง Georges Prosper Remi เริ่มเขียน ‘การผจญภัยของตินติน’ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1920 โดยมีพล็อตคือการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ของโลก (และนอกโลก) ของนักข่าวหนุ่มนาม ตินติน และสุนัขคู่ใจ โสนว์วี่ รวมถึงเพื่อนพ้องทั้งฮาและปั่นอย่าง ศาสตราจารย์แคลคูลัส, กัปตันแฮดด็อก และสองนักสืบ ทอมป์สันและทอมสัน
.
ตินตินได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้อ่านจนถูกแปลไปมากกว่า 70 ภาษา และมียอดขายกว่า 200 ล้านเล่มทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการการนำเรื่องราวของ ตินติน ไปดัดแปลงให้เป็นสื่ออีกหลากหลาย อาทิ ละคอนเวที, วีดีโอเกมส์, บทวิทยุ รวมถึงภาพยนต์ที่ออกฉายปี 2011 โดยได้ สตีเวน สปีลเบิร์ก มาเป็นผู้กำกับ
.
อย่างไรก็ตาม ตินติน เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องราวและเนื้อหาเช่นกัน อาทิ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แอร์เช่ ได้ตีพิมพ์เรื่องของ ตินติน ลงในหนังสือพิมพ์เบลเยียมฝั่งที่สนับสนุนระบอบนาซี หรือในช่วงปี 1930-1931 แอร์เช่เคยได้เขียน ´การผจญภัยของตินตินในคองโก (Tintin in the Congo’ และฉายภาพของชนเผ่าพื้นเมืองแอฟริกันในเวลานั้นว่ามีสถานะด้อยกว่า
.
.
อ้างอิง: