มีข่าวรายงานในทั่วทุกมุมโลก ถึงเหตุภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ อีกสัญญาณหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่สำคัญเกิดขึ้นแล้ว หลังนักวิทยาศาสตร์พบว่า กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม กำลังจะล่มสลายลง
นักวิจัยพบว่า กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม ซึ่งเป็นกระแสน้ำที่เปรียบเสมือนสายพานลำเลียงอากาศอบอุ่น แร่ธาตุ และสารอาหารต่าง ๆ จากเขตร้อนบริเวณอ่าวเม็กซิโกไปยังยุโรปตะวันตก กำลังสูญเสียเสถียรภาพของมันอย่างหนัก ในรอบศตวรรษที่ผ่านมา
นักวิจัยระบุว่า ตอนนี้กระแสน้ำอุ่นนี้มีอัตราการไหลที่ช้าที่สุด ในรอบ 1,600 ปีที่ผ่านมา โดยการวิเคราะห์ล่าสุดพบว่า มันเข้าใกล้จุดหยุดเคลื่อนตัวแล้ว และถ้ากระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมหยุดไหลขึ้นมา มันจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อคนทั้งโลก โดยเฉพาะมันจะทำให้เกิดสภาวะแปรปรวนของฝน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพึ่งพาอาหารของคนในแถบอินเดีย อเมริกาใต้ และแอฟริกาตะวันตก
นอกจากนี้ มันจะส่งผลให้เกิดพายุที่เพิ่มมากขึ้น และอุณหภูมิที่ลดต่ำลงในยุโรป รวมถึงระดับน้ำบริเวณอเมริกาเหนือจะยกตัวสูงขึ้น ป่าแอมะซอนในอเมริกาใต้ รวมถึงแผ่นน้ำแข็งในแอนตาร์กติกก็หนีไม่พ้น ที่จะได้รับผลกระทบไปด้วย หากกระแสน้ำอุ่นนี้พังทลายลง
ถึงแม้ว่าการล่มสลายของกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม จะมาถึงในเวลาอันสั้นนี้ แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคาดเดาไม่ได้ว่า มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่จากการวิเคราะห์แล้ว มันอาจจะถึงจุดจบในช่วงเวลา 2 ทศวรรษไปจนถึงศตววรษที่จะถึงในอนาคตนี้ และด้วยผลกระทบอันมหาศาล นักวิทยาศาสตร์แนะนำว่า เราไม่ควรปล่อยให้กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมพังทลายลง
กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม ถูกขับเคลื่อนจากน้ำเค็ม ที่มวลหนาแน่นในมหาสมุทรอาร์กติก แต่ด้วยสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้น้ำแข็งจากกรีนแลนด์เริ่มละลาย จนน้ำจืดเหล่านี้ไหลลงสู่มหาสมุทร ชะล้างให้มวลน้ำเค็มมีปริมาตรที่เบาบางลง ส่งผลให้กระแสน้ำอุ่นไหลช้าลงไปด้วย การลดชะลอและหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จึงถือได้ว่าเป็นทางออกเร่งด่วน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/thai/international-56215058
#Brief #TheMATTER