การ ‘บูลลี่’ หรือการข่มเหงรังแกกันของเด็กนักเรียน เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป และในหลายๆ ประเทศ การบูลลี่ก็ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นอาชญากรรม ซึ่งทำให้ผู้กระทำไม่ต้องรับผลกระทบอะไร ในขณะที่เหยื่อก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลทางจิตใจ จนบางครั้งก็อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้
แต่ฝรั่งเศส เตรียมจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่จะทำให้การบูลลี่ในโรงเรียนกลายเป็นอาชญากรรม หลัง ส.ส. ลงมติผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดโทษจำคุกไว้มากถึง 3 ปี ซึ่ง ฌ็อง-มิเชล บลองเคอร์ รมว.ศึกษาธิการ ก็มองว่า กฎหมายฉบับนี้จะส่งสารที่สำคัญให้กับสังคมว่า “เราจะไม่ยอมให้ชีวิตลูกหลานของเราต้องแหลกสลายอีกต่อไป” เพราะฝรั่งเศสก็เป็นสังคมหนึ่งที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้อย่างหนัก คาดกันว่า มีเด็กฝรั่งเศส 1 ใน 10 ที่ตกเป็นเหยื่อของการโดนบูลลี่
สำหรับตัวกฎหมาย จะบังคับใช้กับเด็กนักเรียนและผู้ใหญ่ที่ทำงานในสถานศึกษา โดยกำหนดโทษจำคุกไว้สูงสุด 3 ปี และปรับไม่เกิน 45,000 ยูโร หรือ 1,719,000 บาท และถ้ามีการฆ่าตัวตายเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้อาจจะยังไม่ถึงแก่ความตายก็ตาม โทษจำคุกสูงสุดก็จะมากถึง 10 ปี และปรับไม่เกิน 150,000 ยูโร หรือ 5,734,000 บาท
มี ส.ส. บางคนเสนอว่า ตัวกฎหมายฉบับนี้จะทำหน้าที่เป็นการยับยั้งเป็นหลัก ในขณะเดียวกัน ร่างกฎหมายนี้ก็กำหนดให้ต้องมีทรัพยากรที่จะนำมาใช้กับการให้ความรู้และเพิ่มความตระหนักให้กับเด็กนักเรียนในเรื่องของการบูลลี่ด้วย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาควบคู่ไปกับตัวกฎหมาย
แม้จะมี ส.ส. ฝ่ายซ้ายบางคนจะมองว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นการควบคุมจนเกินไป และจะทำให้เด็กกลายเป็นอาชญากร แต่ร่างกฎหมายนี้ก็กำลังเข้าสู่วุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถ้าผ่านออกมาเป็นกฎหมาย ก็น่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการบูลลี่ในฝรั่งเศสได้บ้าง รวมไปถึงเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศอื่นๆ ถกเถียงกันต่อไปว่าจะแก้ไขกันอย่างไร อย่างประเทศไทยเอง ก็มีรายงานออกมาว่า มีการบูลลี่ติดอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งจากที่เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชนได้ไปสำรวจความคิดเห็นของเด็กอายุ 10-15 ปีในไทย ก็พบว่า 91.79% ล้วนเคยถูกบูลลี่มาแล้ว
อ้างอิงจาก
https://www.bangkokbiznews.com/news/861433