สหราชอาณาจักร อิตาลี และ ญี่ปุ่น เพิ่งประกาศแผนความร่วมมือครั้งใหม่ วันนี้ (9 ธันวาคม) มุ่งหน้าสร้างเครื่องบินรบรุ่นใหม่ ในชื่อ Tempest ซึ่งจะใช้ AI ‘อ่านใจ’ นักบินในสถานการณ์ต่างๆ ได้ โดยหวังให้พร้อมใช้งานภายในปี 2035
โครงการดังกล่าวมีชื่อว่า Global Combat Air Programme (GCAP) และจะเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นประกาศความร่วมมือโครงการพัฒนาทางการทหารกับประเทศอื่นๆ นอกจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งหนึ่งที่สำคัญในการต่างประเทศของญี่ปุ่น
เครื่องบิน Tempest ที่ว่านี้จะ ‘อ่านใจ’ ได้ยังไง? ฟีเจอร์หลักๆ ของเครื่องบินรบรุ่นใหม่นี้ คือจะใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในปฏิบัติการของนักบิน โดยจะมีเซ็นเซอร์ในหมวกของนักบินที่มอนิเตอร์สัญญาณสมองและข้อมูลทางการแพทย์อื่นๆ ได้ ซึ่ง AI ก็จะเรียนรู้ข้อมูลเหล่านี้ไปเรื่อยๆ ตามชั่วโมงบินของนักบิน
ผลคือ AI อาจจะเข้ามาช่วยควบคุมการบินในขณะที่นักบินหมดสติในขณะที่มีแรงโน้มถ่วงสูงได้ หรือเข้ามาช่วยจัดการอะไรบางอย่างในขณะที่นักบินรู้สึกเหนื่อย หรือตกอยู่ในความเครียดรุนแรง
ประโยชน์ของโครงการนี้ จะไม่ใช่แค่ในทางการทหารเท่านั้น แต่ยังมีผลพลอยได้ในทางเศรษฐกิจด้วย อย่างเช่นสหราชอาณาจักร ก็ตั้งความหวังว่า การพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นใหม่จะช่วยสร้างงานใหม่ๆ ได้หลายพันตำแหน่ง และเปิดช่องกระตุ้นการส่งออกอาวุธเพิ่มมากขึ้นด้วย
แถลงการณ์ร่วมของทั้ง 3 ประเทศระบุว่า “โครงการนี้จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง สนับสนุนการสร้างงานและปากท้อง ทั่วทั้งอิตาลี ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร
“มันจะช่วยดึงดูดการลงทุนในการวิจัยและการพัฒนา ให้เข้ามาสู่กระบวนการออกแบบดิจิทัลและการผลิตขั้นสูง มันจะมอบโอกาสให้กับวิศวกรและช่างเทคนิคที่มีทักษะสูงรุ่นต่อๆ ไปของเรา และในการทำงานร่วมกันด้วยจิตวิญญาณของการเป็นพาร์ตเนอร์อย่างเท่าเทียมกัน เราก็แบ่งปันทั้งผลดีและผลเสียของการลงทุนในคนและเทคโนโลยีนี้ร่วมกัน”
นอกจาก 3 ประเทศนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า โครงการดังกล่าวตั้งเป้าจะสร้างเทคโนโลยีที่จะทำงานร่วมกันได้กับเทคโนโลยีของพันธมิตรอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะสหรัฐฯ และประเทศ NATO ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็ยังสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ด้วยเช่นกัน
อ้างอิงจาก