เหตุสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบังถล่มลงมาในช่วงเย็นของวันนี้ (10 กรกฎาคม) ซึ่งล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย ทำให้เกิดคำถามเรื่องความปลอดภัยในการก่อสร้างบนท้องถนนอีกครั้ง ซึ่งพบว่า ส.ก.เขตลาดกระบัง เคยยื่นกระทู้ถาม ในการประชุมสภากรุงเทพมหานครถึงความคืบหน้าของการสร้างสะพานนี้มาแล้ว
สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย เคยยื่นกระทู้ถามในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 3) เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา โดยพบว่า โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณ 1,664,550,000 ล้านบาท ทั้งที่มีระยะทางเพียง 3.3 กิโลเมตร และโครงการก่อสร้างก็ล่าช้า สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้ถนนสัญจร
“แผนของการก่อสร้าง สัญญาจะมีอยู่ 2 ช่วง คือ 11 สิงหาคม 66 ต้องแล้วเสร็จ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ก็ได้ขยายสัญญาออกไป เป็นการปรับปรุงครั้งที่ 1 ผลงานสะสมก็อยู่เท่าเดิม แต่ละวันมีช่างมาดำเนินการไม่กี่คน สร้างปัญหารถติดมากมาย แผนที่ 1 หลังจากการได้รับผลกระทบจาก COVID-19 คุยกันเรียบร้อย ต่อสัญญาเพิ่มเติมเป็น 16 ธันวาคม 2567 เสร็จทันไหม ไม่ทัน 3.3 กิโลเมตร 1,600 ล้าน 1 กิโลเมตร 495 ล้าน เกือบ 500 ล้านบาท เข้าใจว่าโครงการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยผู้ว่าฯ ชัชชาติ”
นอกจากนี้ สุรจิตต์ยังระบุด้วยว่า แม้แต่ตำรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบก็ยังไม่ทราบว่าต้องดำเนินการอย่างไร ในการดูแลการจราจร เมื่อถามผม ตนก็ไม่ทราบ จึงโทรสอบถามเจ้าหน้าที่เขต ก็ไม่ทราบ ต้องโทรหาสำนักโยธาฯ แทน โครงการก่อสร้างพันกว่าล้าน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับไม่ทราบข้อมูล ไม่มีส่วนร่วม
ทั้งนี้ สุรจิตต์ตั้งคำถามต่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. 3 ข้อ
- กทม.จะมีการบูรณาการการทำงานระหว่างสำนักซึ่งเป็นเจ้าของงบประมาณกับ สนง.เขตที่เป็นเจ้าของพื้นที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ กทม.อย่างไร
วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงแทนว่า จะวางแผนทำงานในพื้นที่ร่วมกับสำนักงานเขต และตำรวจจราจร ส่วนเรื่องร้องเรียนต่างๆ ของประชาชน ก็จะนำไปปรับปรุงเพื่อลดผลกระทบกับประชาชน และให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลรูปแบบการก่อสร้าง ความก้าวหน้า รวมถึงงานก่อสร้างจะประชาสัมพันธ์ผ่านสำนักงานเขตให้ทราบ ผู้ควบคุมงานของสำนักการโยธาฯ ก็สามารถแจ้งได้โดยตรงอยู่แล้ว หรือแจ้งผ่าน ‘ทราฟฟี่ฟองดูว์’ ก็จะรับไปดำเนินการ
- กทม.มีแผนการดำเนินการให้เร็วขึ้นอย่างไร
วิศณุก็แจงว่า กทม.ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างทางยกระดับจากแบบเดิมที่เป็นการก่อสร้าง girder box segment ซึ่งติดตั้งแบบหล่อคอนกรีตและเทในที่ ให้เป็น precast box segment โดยหล่อจากโรงงาน และขนย้ายมาติดตั้งบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง และจะแจ้งให้ผู้รับจ้างเพิ่มแรงงาน วัสดุ และเครื่องจักรเพื่อเร่งรัดงานก่อสร้างให้เร็วขึ้น และลดผลกระทบในระหว่างการก่อสร้าง
- มีแนวทางลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน และผู้สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวอย่างไร
วิษศณุแจงว่า จะจัดให้มีการกั้นพื้นที่ก่อสร้างบริเวณเกาะกลางถนน ให้เหลือช่องจราจรอย่างน้อย 2 ช่องต่อทิศทาง รวมถึงมีป้ายแนะนำ ป้ายเตือนอุบัติเหตุ และไฟแสงสว่างตลอดทั้งโครงการ และทางข้ามทางม้าลายจะมีการตีเส้นให้ชัดเจน พร้อมติดตั้งไฟเตือน ด้านฝุ่นละออง
สำหรับสะพานดังกล่าว มีเจ้าของโครงการคือ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ออกแบบ คือ สำนักงานวิศวกรรมทาง สำนักการโยธาฯ ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน ผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลรับจ้างดำเนินการก่อสร้าง คือ กิจการร่วมค้า ธาราวัญ-นภา ที่เสนอราคาต่ำสุด ในระบบ E-Bidding
มูลค่าค่าก่อสร้างตามเอกสารสัญญา อยู่ที่ 1,664,550,000 บาท โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตอนนี้ เบิกเงินไปแล้ว 9 ครั้ง รวมเป็นเงิน 337,051,060 บาท โดยโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2567
อ้างอิงจาก