แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมา ‘เกาหลีใต้’ จะเพิ่มขึ้นในปี 2024 นี้ แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เคยครองแชมป์ไปเยือนเกาหลีใต้อันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตกลงไปอยู่อันดับที่ 3 รองจากเวียดนาม และฟิลิปปินส์
ข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวเกาหลี เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน มีจำนวน 119,000 คน ซึ่งลดลง 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่แล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมเพิ่มขึ้น 86.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่แล้ว
มีรายงานด้วยว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้น 470% และญี่ปุ่น 86% ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน เช่น ฟิลิปปินส์ 76% อินโดนีเซีย 51% มาเลเซีย 35% เวียดนาม 29% และสิงคโปร์ 11%
เมื่อเปรียบเทียบกับระดับก่อนการแพร่ระบาดของ Covid-19 แต่อัตราการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ตั้งแต่เดือนมกราคมไปถึงเมษายนปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ 59% ของช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 แม้ว่าอัตราการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาติอื่นอยู่ที่ 88% ซึ่งมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
ประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาหลีใต้ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 572,000 คน แซงหน้าเวียดนาม 554,000 คน และฟิลิปปินส์ 504,000 คน อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ประเทศไทยตกลงไปอยู่อันดับที่ 3 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 163,000 คน
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดังกล่าวระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยลดลงเนื่องจากความรู้สึกเชิงลบจากการถูกปฏิเสธเข้าประเทศ โดยตม.เกาหลีใต้
ขณะที่การใช้ระบบ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorisation) ซึ่งกำหนดให้นักเดินทางจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า 112 ประเทศ ต้องลงทะเบียนและขออนุมัติเข้าประเทศทางออนไลน์ก่อนออกเดินทางไปเกาหลีใต้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เนื่องจากมีประเทศมากมายกว่า 22 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกงและสิงคโปร์ที่ได้รับการยกเว้น K-ETA ชั่วคราว แต่กลับไม่มีประเทศไทยในรายชื่อนั้น
การปฏิเสธเข้าประเทศหลายเคส และการขาดคำอธิบายที่ชัดเจนหลังถูกปฏิเสธ กระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจในหมู่คนไทย นักเดินทางบางคนแม้จะได้รับอนุมัติจาก K-ETA แล้ว ก็ถูกปฏิเสไม่ให้เข้าประเทศ แม้ว่าจะเดินทางมาถึงเกาหลีใต้แล้ว ทำให้ปัญหามันรุนแรงขึ้นไปอีก
เรื่องการปฏิเสธและการปฏิบัติเหล่านี้ กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลมีเดียของไทย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง อีกทั้งข้อกำหนดการเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับคนไทยส่วนหนึ่งมาจากการอพยพแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ผีน้อย’ นั่นเอง
กระทรวงยุติธรรมเน้นย้ำว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และไม่เลือกปฏิบัติต่อคนไทย อย่างไรก็ตาม หน่วยงานการท่องเที่ยวซึ้งตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 20 ล้านคนต่อปี มีความกังวลเกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงจากประเทศไทย ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ เกาหลีใต้และไทยยังกำหนดให้ปี 2023 – 2024 เป็น ‘ปีเยือนเกาหลี-ไทย’ โดยหวังว่าจะกระชับความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ความเดือดมันไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เมื่อล่าสุดในการประชุมสภาของไทยที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบกับกฎหมาย ‘สมรสเท่าเทียม’ ด้วยคะแนน 130 ไม่เห็นด้วย 4 และงดออกเสียง 18 เสียง ส่งผลให้ชาติไทยเป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผ่านกฎหมายนี้
ทว่าในโลกออนไลน์ของเกาหลีใต้กลับไม่ได้ร่วมแสดงความยินดีกับไทย แต่กลับมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่สำนักข่าวของเกาหลีใต้เผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เกือบ 500 คอมเมนท์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอมเมนท์จากผู้ชายที่ล้วนเป็นความคิดเห็นในเชิงลบ เช่น ประเทศของเรา (เกาหลีใต้) ต้องต่อต้านสิ่งนี้ เพื่อคนรุ่นใหม่ในอนาคต, ความรักเป็นสิ่งสวยงามเมื่อมันเป็นเรื่องระหว่างชายหญิงเท่านั้น ฯลฯ
อ้างอิงจาก