ถ้าเลื่อนฟีดในโซเชียลมีเดียช่วงนี้เราอาจจะเจอคอนเทนต์สไตล์ใหม่สุดแกลม ที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์หรือร้านค้าต่างๆ พากันถ่ายภาพ ‘ถาดในสนามบิน’ ที่มีของมากมายวางอยู่ในนั้น ซึ่งสิ่งนี้คือเทรนด์ที่ชื่อ ‘Airport tray aesthetic’ นั่นเอง
เทรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยที่ผู้คนจะแชร์ภาพถาดที่ใส่ของใช้ต่างๆ อย่างกระเป๋าถือ ลิปสติก หนังสืออ่านฆ่าเวลา แว่นตากันแดด รองเท้า และของใช้จุกจิกส่วนตัว ที่จัดวางไว้อย่างประณีต เรียงสีและสวยงาม
อย่างไรก็ตาม เทรนด์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากพวกเขามองว่าสนามบินเป็นสถานที่ที่มีผู้คนเยอะแยะมากมาย และแถวตรวจรักษาความปลอดภัยโดยปกติก็ยาวมากและใช้เวลานานอยู่แล้ว
โดยสื่อต่างประเทศอย่าง New York Post บอกว่าเทรนด์นี้เป็น ‘เทรนด์ที่ทำให้คนอื่นเสียเวลา’ และทำลายการตรวจรักษาความปลอดภัยในสนามบิน ขณะที่หนังสือพิมพ์ในสหราชอาณาจักรบอกว่า กระแสนี้ได้สร้างความวิตกกังวลและเสี่ยงที่จะกลายเป็นการสร้างความเกลียดชังในสนามบินได้
นอกจากนี้ ยังมีอินฟลูฯ บางคนสอนวิธีการถ่ายภาพนี้โดยที่ไม่ไปรบกวนคนอื่นด้วยเช่นกัน โดยสอนถ่ายภาพถาดซึ่งบอกว่า “หลังจากผ่านการตรวจความปลอดภัยแล้ว ให้หามุมสงบๆ แล้วก็ค่อยจัดถาดถ่ายภาพทีหลัง”
ขณะที่ยูทูปเบอร์รายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า เธอยอมซื้อถาดแบบเดียวกับที่สนามบินใช้เพื่อถ่ายเล่นจากบ้านของเธอ โดยบอกว่า “ฉันมีถาดนี้อยู่ที่บ้าน เพราะฉันไม่อยากอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนเยอะๆ โดยเฉพาะในแถวที่คนเยอะและบางคนก็รีบ ซึ่งฉันก็แค่อยากได้ภาพสวยๆ ก็เท่านั้น ฉันเลยทำที่บ้าน”
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นพื้นที่สำหรับนักเดินทางที่ต้องใช้ในการเดินทางที่เร่งด่วน อย่าลืมว่าแม้รองเท้าจำนวนมาก หรือสัมภาระต่างๆ จะผ่านถาดตรวจความปลอดภัยแล้ว แต่ในปี 2018 ผลการวิจัยในยุโรปพบว่า ถาดในสนามบินเป็นส่วนที่ ‘ไม่ถูกสุขอนามัยมากที่สุดในสนามบิน’ เพราะอาจจะมีเชื้อโรคมากกว่าห้องน้ำ
วิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร BMC Infectious Diseases ซึ่งเปิดเผยว่า ถาดพลาสติกของสนามบินคือผู้ร้ายหลักที่ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายในสนามบิน แต่ถึงอย่างนั้น กระแสดังกล่าวก็ได้รับความนิยมจากหลายแบรนด์ทั่วโลกที่หันมาทำการตลาดสไตล์นี้
ด้านสำนักงานความปลอดภัยในการขนส่งของสหรัฐฯ (TSA) มองว่ากระแสดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลนัก โดยบอกว่า สำนักงานฯ เพิ่งทราบถึงเทรนด์ดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ แต่ตราบใดที่การถ่ายภาพนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความล่าช้าหรือเป็นปัญหาต่อผู้โดยสารคนอื่นๆ ในจุดตรวจก็ไม่มีปัญหาอะไร
อ้างอิงจาก