ในโลกที่ธุจกิจ และสื่อต่างๆ เปลี่ยนไป มีเทคโนโลยี สื่อโซเชียลต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตคนมากขึ้น หลายๆ ธุรกิจ เช่นนิตยสาร หรือสื่อต้องหันไปพึ่งโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น และหวังว่าจะเป็นทางรอดให้ธุรกิจต่อไปได้ ที่เมื่อแพลตฟอร์มเหล่านี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึ่ม หรือฟีเจอร์ต่างๆ ก็จะสะเทือนไปถึงการทำงานของธุรกิจเหล่านั้นด้วย
แต่ในงาน American Magazine Media Conference ที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน Campbell Brown หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือข่าวทั่วโลกของเฟซบุ๊ก ได้กล่าวกับเหล่าสื่อ และนิตยสารที่กำลังดิ้นรนจะประสบความสำเร็จ ในยุคที่โซเชียลมีเดียเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าโซเชียลมีเดียไม่ได้มีเพื่อช่วยธุรกิจของพวกคุณ และ “เฟซบุ๊กเองไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดของคุณได้ โดยธรรมชาติแล้วเฟซบุ๊กมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถวางใจได้”
เฟซบุ๊กถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อต่างๆ เมื่อสื่อเหล่านี้ลงทุนจ่ายเงินในแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่โฆษณาบนไลฟ์วิดีโอ อัพโหลดตัวเร่งการแสดงผลของบทความที่เปิดอ่าน วิดีโอในหมวด Watch ที่ยาวขึ้น แต่สื่อเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลตอบแทนที่พอใจ
Brown ยอมรับว่าเฟซบุ๊กจะร่วมรับผิดชอบกับการสื่อสารที่ไม่สมบูรณ์ในอดีต และยังระบุกับผู้เผยแพร่และสื่อต่างๆ ว่า ถ้าพวกเขาเพิ่งเข้าร่วมในโปรดักส์ใหม่ของเฟซบุ๊ก พวกเขาจะเห็นผู้ชม และศักยภาพของโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เผยแพร่คอนเทนต์เหล่านี้ผิดหวังเพราะเฟซบุ๊กได้ปรับเปลี่ยนอัลกอริทีมฟีดข่าว ที่กำหนดว่าจะให้โพสต์ใดที่จะถูกเห็นมากที่สุด ซึ่งกระทบต่อจำนวนผู้ชมที่ลดลงรายเดือน
Brown ยังได้พูดถึงฟีเจอร์ทีจะช่วยผู้เผยแพร่คอนเทนต์ เช่นเครื่องมือการสมัครรับข้อมูล (subscription) ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อ่านจำนวนมากจ่ายเงินสำหรับเนื้อหา และระบุว่า เฟซบุ๊กจะพัฒนาตัวชี้วัดที่ดีเพื่อช่วยให้องค์กรข่าวได้รับข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มผู้ชมมากขึ้น ทั้งเฟซบุ๊กยังได้ทำสัญญา 300 ล้านดอลล่าร์ในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อสนับสนุนสื่อท้องถิ่น และโปรเจ็กต์ด้านมีเดียอื่นๆ ด้วย
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเฟซบุ๊กในปีที่ผ่านมา คือการลดรีชวิดีโอยอดนิยม ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ผลิตคอนเทนต์หลายรายสร้างรายได้จากการโพสต์วิดีโอแบบสั้นๆ ซึ่งมียอดวิวนับล้าน แต่มีเนื้อหาเพียงเล็กน้อย ซึ่ง Brown ระบุชัดเจนในครั้งนี้ว่า “เราจะไม่ให้รางวัลกับสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไป”
#Brief #TheMATTER
