เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก (ไม่จริง) อีกไม่กี่วันเราก็กำลังจะย่างเข้าสู่ปี 2025 แล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะมีชีวิตรอดมาได้อีกปี
สำหรับบางคน ปีนี้คงเป็นปีที่อุ฿ขั้นสุด ไม่ว่าจะทำอะไรปัญหาก็มารุมเร้า แน่นอนว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่นั่นใช้ไม่ได้กับปัญหา เพราะมันเลือกมาเกิดได้ และเกิดกับกูตลอดเวลาด้วยซ้ำ
แต่ไม่ว่ายังไง อดทนกันไว้จนกว่าจะแลนด์นะ เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้ว เตรียมสลัดทิ้งทุกพลังบวกเชิงลบ แล้วมาไล่ทบทวนกันดีกว่าว่า ในปี 2024 ที่ผ่านมา มีคำศัพท์หรือประโยคไหนแทนความในใจชาวไทยกันบ้าง กับ ‘พจนานุกรม 2024 ฉบับราชบัณดัด The MATTER’ ที่เราคัดเอาคำเด็ดๆ ในปีนี้มารวมไว้ให้ แต่ขอคัดมาเฉพาะบางคำนะ เพราะถ้าเอามาทุกคำก็กลัวว่าต้องเขียนกันยันปีใหม่ปีหน้า เยอะเกินคุณน้า ขยันผลิตศัพท์กันเวอร์
กล้าหาญที่สุด
“พี่รู้ว่าเลิกงานแล้ว แต่ช่วยพี่หน่อยนะ ยังไงพี่ขอก่อนทุ่มหนึ่ง น้องคงไม่ว่าอะไร ช่วยๆ กัน เราเป็นทีมเดียวกัน” ใจอยากจะกู่ร้องด้วยคำหยาบคายทั้งหมดที่นึกขึ้นมาได้ เวลามีทั้งวันไม่สั่ง มาสั่งเอาตอนเราสะพายกระเป๋าขึ้นบ่าพร้อมกลับบ้านแล้ว งานตัวเองแท้ๆ แต่ดันโยนขี้มาให้เราช่วย ทำดีก็มีแต่พี่ที่ได้หน้า พอทำพลาดมาทิ้งกูลอยแพอยู่คนเดียว ใครจะเหมาะสมกับคำว่า ‘กล้าหาญที่สุด’ เท่าเขาคนนี้
แม้คำว่า ‘กล้าหาญที่สุด’ จะมีที่มาอย่างซอฟต์หวานจากซีรีส์เด็กเส้นฝึกงานของ Nicole Nam ที่ชื่นชมความกล้าในการเอาเรือหางยาวออกทะเล แต่เมื่อนานวันเข้าไป กลับกลายเป็นประโยคประชดเสียดสีคนที่ดีแต่สั่งไม่สนความเป็นจริง หรือสักแต่จะพูดไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร คนพวกนี้เหมาะกับการใช้คำว่า ‘กล้าหาญที่สุด’ ไม่มีใครเกินจริงๆ
กุจะล่าแบ้
ภาษาลูเข้ามาขยายความรุงรังของชีวิตอีกครั้งในปี 2024 จากกุจะเครซี่ สู่ ‘กุจะล่าแบ้’ ขั้นกว่าของคำว่ากุจะบ้า ในเวอร์ชั่นจะบ้าตายแล้วจริงๆ โว้ยยยยย ถ้าต้องคอยรับมือกับคนที่เก่งแต่เกิดและเก่งแต่มึงแบบนี้ แถมตอนนี้น่าจะเก่งกว่าแม่มึงไปแล้วด้วยมั้ง แต่แค่บ่นออกมาว่าจะบ้าไปเลยตรงๆ ก็กลัวจะมีคนได้ยินแล้วพาลเข้าใจผิดว่าเราไปด่าหรือเปล่า ซึ่งก็เข้าใจถูกแล้ว เพราะแอบด่าในใจไปแล้วจริงๆ (นี่ไม่ชอบคนทั้งโลกเลยหนิ) มันก็เลยต้องปรับตัวตามโลกให้ทันซะหน่อยน่ะคุณน้า เราจะพูดแต่อะไรเดิมๆ ได้ยังไง ถ้าคำใหม่แต่ความหมายเดิมมาเสิร์ฟให้ใช้ขนาดนี้
และถ้าใครรู้สึกขัดตาขัดใจว่าพิมพ์คำว่า กู ดีๆ ไม่ได้หรือไง ก็อยากจะบอกเหมือนกันว่า ลองมาเป็นกุดูค่ะ จะได้รู้ว่าการเจอคนที่เก่งแต่ตัวเองแบบนั้นทุกวัน มันไม่มีแรงแม้แต่จะกดชิฟไปใช้สระอูด้วยซ้ำ เพราะกุจะล่าแบ้แล้วจริงๆ
เกิดแต่กับกู
ฮัลโหลค่า อันนี้ไม่ใช่อำเภอนะคะ แจ้งเกิดที่นี่ไม่ได้ ไม่ได้เป็นมาสเตอร์คีย์ด้วยค่ะ ไม่มีเวทีแจ้งเกิดที่นี่นะค้า แต่อะไรนะคะ ยังไงก็จะเกิดเหรอคะ เกิดกับใครคะ เกิดแต่กับกู ว้ายยยยย งั้นขอเวลาสักครู่นะคะ จะไปลบวันเกิดออกจากสูติบัตรค่ะ เพราะตอนนี้เลือกไม่ถูกว่าจะเกิดวันไหนดี มีเรื่องให้เกิดทุกวันเลยค่ะ แถมเกิดแต่กับกูด้วย birthday but with me ของแทร่ ยกเค้กจุดเทียนเข้ามาได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะนกขี้ใส่หัว ลิฟต์เสีย หมูกรอบหมด หัวหน้าวีนไม่รู้เวลา ลูกค้าขอแก้งานตอนปิดไฟนอลแล้ว และอีก 108 ปัญหา ถามหน่อยถ้าไม่ใช่กู เรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับใครเอ่ยยยยยยยยย ทุกเรื่องที่มันเกิดขึ้นเป็นเพราะมันต้องเกิด หรือเป็นเพราะกูน้อ เกิดได้เกิดดี เกิดจนอยากร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์วันละ 3 เวลา ยังไงปีหน้าก็เพลาๆ เรื่องที่จะมา birthday กันหน่อยนะคะ กลัวแล้วค่ะ สยองมาก
คุณน้า
หลายปีก่อนอาจได้เป็น ‘แม่’ ของใครหลายคน แต่ปี 2024 ดันได้สรรพนามใหม่ว่า ‘คุณน้า’ สามารถใช้เป็นทั้งคำเรียกแทนชื่อ หรือใช้เป็นคำสร้อยก็ได้ทั้งสิ้น ไม่ต้องสนสถานการณ์สนบริบทอะไรเลย นึกอยากจะพูดว่าคุณน้าตอนไหนก็สามารถทำได้เลย เช่น ‘ทำงานมาทั้งวันเซ็งฉิบหายเลยคุณน้า’ ‘สั่งงานเหมือนสั่งน้ำมูกเลยคุณน้า ไม่รู้ตัวคนสั่งจำได้ไหมเนี่ย’ หรือ ‘คุณน้า เย็นนี้เบียร์มั้ย อยากด่าเจ้านายง่ะ’ เพราะคำนี้ลื่นไหลได้มากกว่าที่คิด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก ไม่เชื่อลองใช้ดูค่ะ คุณน้า
จิตตุงแป่ง
คนไทยอย่างเราๆ เก่งเรื่องการผวนคำ การบิดคำ การดัดคำ เพื่อความสนุกและความบันเทิงเกิน แถมด้วยติดตลก ไม่ฮาไม่ได้ จังหวะสามช่ามันอยู่ในสายเลือด และวันดีคืนดีก็ผวนคำโน้นผวนคำนี้ไปเรื่อย จนมาถึงคำว่าจิตปรุงแต่งทีไร ในหัวก็จะรู้สึกคัดค้านว่า มันต้องเป็น ‘จิตตุงแป่ง’ เท่านั้น พูดล้อเล่นขำไปมาจนมานั่งงงเองว่า สรุปต้นฉบับมันคืออะไรกันแน่นะ ซึ่งนั่นแหละฮะท่านผู้ชม นี่คือตัวอย่างของจิตตุงแป่งของจริง แถมตอนนี้ยังมีจิตพุงเต่งตามมาติดๆ ด้วย
เซรั่มนารา
ใหม่ล่าสุดมาก มาแรงแซงทางโค้งเกินกับคำว่า ‘เซรั่มนารา’ แหล่งที่มาไม่ต้องสืบหา เพราะมีระบุพิกัดไว้แล้วในคำชัดเจน เรามาสนใจกันที่ความหมายได้เลย คำนี้โดยส่วนใหญ่ใช้บ่งบอกสรรพคุณความดีงาม ไม่ผิดไม่พลาด จับโป๊ะไม่ได้ เหมือนวันนี้แต่งตัวสวยแล้วเพื่อนชมว่าเซรั่มนารามาก นั่นหมายถึงสวยมาก เริ่ดมาก เติดระแบด สามารถใช้เป็นคำชมกันได้ตลอดเวลา แต่อีกส่วนหนึ่งก็ใช้เพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่อยากมีส่วนร่วม ก็พูดๆ พิมพ์ๆ ไปก่อนว่าเซรั่มนารามาก เอาให้ตัวเองมีซีนในเรื่องนี้ไว้ ความหมายช่างมัน ไม่เชื่อลองเม้นใต้โพสต์นี้ว่าเซรั่มนาราดูก็ได้
ตริ้ว
“คนนี้ลั้ลลานะคะ ลั้ลลา เศร้าซึม นี่ไงเศร้าซึม อันนี้แรง นี่คนแรงอารมณ์แรง อันนี้ตริ้ว ตริ้ว ตริ้ว สับสน อันนี้สับสน อันนี้ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน นี่ไงชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน อันนี้เขินอาย เขินอายคนนี้ นี่ ๆ ตริ้วมาอีกแล้ว มีตริ้วสองคน ตริ้ว…” เรียกได้ว่าอ่านกันเป็นทำนอง อ่านด้วยน้ำเสียงที่ทุกคนรู้กันในหัว เพราะสิ่งนี้เปลี่ยน inside out 2 ในภาพจำของใครหลายคนไปเลย เมื่อช่อง babyjolystar จากติ๊กต็อกได้ออกมาพูดถึง ‘อารมณ์ของฉันในหัว’ จนหลายคนถึงกับต้องหากันเลยว่า สรุปแล้วอารมณ์ตริ้วมันคืออะไรกันแน่ 👁️🫦👁️ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็ได้คำตอบมาว่า มันคือฟีลหมุนตริ้วๆ นั่นเอง
ติดแกลม
ในยุคเธอเป็นลูกคุณหนู เธอเป็นหลานคุณนายกำลังมา เพื่อนแต่งตัวดีหน่อยก็ต้องเอ่ยปากแซว “คุณหนูครับ คุณหนูแต่งตัวไม่นัดกระผมเลยนะครับ” ทำไมถึงปล่อยให้ผมกลายเป็นหมามอมๆ เก่าๆ อยู่คนเดียว เดี๋ยวนี้จะกินข้าวข้างทางก็ไม่ได้ บอกว่าไม่ปัง ต้องเป็นร้านเก๋มีมุมให้ถ่ายรูป ถ้าไม่กล๊าหมู่ ไม่ Glamorous คือหายใจไม่ออก สั่งอาหาร 3,000 น้ำ 300 ชุดใหม่เอี่ยม รองเท้า 5,000 ถ่ายรูปมุมเดิม 2 ชั่วโมงลงรูปเดียว มีคนกดไลก์ 4 คอมเมนต์ 0 แต่ถามว่าแคร์มั้ย ก็คงต้องตอบว่า ไม่ (แคร์) เพราะกำลังหาเรฟสำหรับรูปเซ็ตถัดไปอยู่ เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ ลูกคุณหนูขนาดนี้ ถ้าไม่ให้ติดแกลม จะให้ไปติดอะไรละค้าาา
เติดระแบด
สวยเยี่ยวราดหลบซ้าย สวยกินคนหลบขวา เพราะนาทีนี้สวยควงอึ๋มกำลังมา แถมตีคู่มาข้างๆ สวยเติดระแบด จุดเริ่มต้นและที่มาก็ไม่ใช่จากไหนไกล คือมาจากเกิร์ลกรุ๊ปเบอร์ 1 เจน 4 ของฝั่ง k-pop อย่าง aespa ที่มีท่อนร้องว่า ‘Throw it back’ ในเพลง Armageddon แต่เมื่อมาพร้อมท่าเต้นควงสะโพกที่เริ่ดเกินมง จาก Throw it back ก็กลายเป็นคำว่า ‘เติดระแบด’ อย่างห้ามไม่อยู่ คำเดียวเก็บครบทั้งความหมายทางตรง ความหมายทางผวน ยิ่งประกอบท่าทาง และจริตจือปากเอกลักษณ์แห่งมาดามจือเข้าไปอีกก็ไม่มีอะไรมาฉุดอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ว่าจะเอาคำว่าเติดระแบดไปใช้อวยยศอะไร จากคำชมธรรมดาก็จะกลายเป็นคำชมที่เหนือขึ้นไปอีกหลายระดับเลย ฟีลว่าตอนพูดคำนี้มีมาดามจือมายืนเล่นหูเล่นตาอยู่ข้างๆ ด้วยตลอด คนมาเริ่ดจะปัง ใครมันจะห้ามอยู่
แต่ละมื้อ แต่ละ day
โอ๊ยน้ออออออ ทำไมชีวิตมันเป็นจังซี่วะ วันๆ พันกว่าเรื่อง คนนู้นก็จะเอาแบบนั้น คนนั้นก็จะเอาแบบนี้ อีนี่ก็บ้า อีป้านั่นก็ประสาท ‘แต่ละมื้อ แต่ละ day’ เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันที่มีเรื่องราวต้องให้กุมหัวและกรีดร้องออกมาไม่หยุด ถ้าแค่อ้าปากกินข้าวแต่ละมื้อก็มีเรื่องให้โดนบ่น โดนด่า ก้าวขาออกจากเตียงก็เจอสารพัดปัญหาไม่หยุดหย่อนขนาดนี้ ฮ่วย “แต่ละมื้อ แต่ละ day have แนวมาให้ think 1 วัน 1,000 situation ฉันละปวด head กลุ้ม heart” ไม่ต่างกับที่ Psychopitchy บอกไว้ในติ๊กต็อก
นี่เข้าใจทุกอย่าง
ห้ะ ทุกคนเงียบ นี่ว่าใช่ มันจะไอนั่นมาก ณเดชน์ญาญ่าเมื่อก่อนก็แบบนี้ ขอคนเข้าใจ ฮ็อบ พูดได้มั้ย คือนี่เข้าใจทุกอย่าง! เรียกได้ว่าหันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดวลีเหล่านี้ แล้วจบลงที่นั่งจมูกบาน สำหรับมักเกิ้ลคนไหนที่งง คงต้องขอบอกว่ามันมักถูกใช้โดยสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่า สาววาย ในตอนที่มีโมเมนต์ให้ฟินเกินจนหุบปากไม่ลง มือต้องคอยเสิร์ชหาคลินิกทันตกรรมใกล้ฉัน แต่ก็นั่นแหละ เมื่อประชากรสาววายมีจำนวนมาก คำที่ถูกครีเอทแบบสั้นๆ ได้ใจความก็เลยมากขึ้น และทั้งหมดทั้งมวลดันมีความหมายเดียวกันซะด้วย นั่นก็คือเอาไว้ชงคู่ชิปที่เราเห็นว่าเหมาะสมไง แบบไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เพราะแค่มองตากัน ‘นี่เข้าใจทุกอย่าง’ จริงๆ สาววายเขารู้กัน
ไปครับเมีย
แค่คำเดียวก็เท่โดนใจขึ้นมาไม่น้อยหน้าใคร ด้วยเหตุเพราะ “ภรรยาอยากได้ต้นคริสต์มาส ผมก็เลยต้องซื้อต้นคริสต์มาสให้กับภรรยา” เมื่อพี่ลูกกอล์ฟ—คณาธิป สุนทรรักษ์ เอ่ยวลีสุดผัดสัวอย่าง “ไปครับเมีย” พลางแบกต้นคริสต์มาสขึ้นบ่า ในช่องยูทูบ PEACHII ก็ทำเอาถูกใจคนไปทั่วบ้านทั่วเมืองจนกลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน ถึงขั้นต้องออกแถลงผ่านสำนักข่าวไทยเลิฟเพื่อวอนสังคมให้โอกาส เพราะวลีนี้ไปไกลหลายวงการเกินกว่าที่คิด เมื่อจู่ๆ ทุกคนก็มีเมียกันเต็มไปหมด แถมยังรักเมียมากอีกด้วย จนกลายเป็นว่าแค่เห็นใครใส่หมวกปีกกว้าง มือล้วงกระเป๋ากางเกง และเดินสับๆ ก็ต้องพูดออกมาว่า ‘ไปครับเมีย’ อยู่ทุกที
พลังบวกเชิงลบ
“ขอบคุณนะที่ทำให้หุบยิ้มในวันที่ยิ้มได้” นี่ล่ะ นิยามของคำว่า ‘พลังบวกเชิงลบ’ ที่เห็นภาพมากที่สุด ในวันที่เรากำลังมีความสุขที่สุด อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องราวงงๆ เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ยังไงนะไอที่พูดเมื่อกี้ชมใช่ไหม หรือกำลังหลอกด่ากันอยู่แต่เราดันตามไม่ทัน ไม่ใช่ม้าง คงเป็นคำชมแหละเนอะ หรือลองจำลองสถานการณ์ว่า วันนี้ตั้งใจตื่นตั้งแต่ตี 5 ขึ้นมาแต่งหน้าทำผม เตรียมไปออกเดตกับแฟน เตรียมผิวไปชั่วโมงหนึ่ง ตั้งใจเลือกสีบลัช สีลิปให้ออกมาเริ่ดที่สุด แต่พอเจอแฟนปุ๊ป คำแรกที่ทักคือ วันนี้เตงหน้าสดก็ยังสวย อรืม กุจะล่าแบ้ของแท้ พลังบวกเชิงลบมาก แต่งหน้าเป็นวัน สุดท้ายเธอบอกกันว่าหน้าสด เห็นใจรองพื้น 3 ชั้น ขนตาแม่เหล็กเบอร์ 11 กับลิปแท่งละพันที่ทามาด้วยได้มั้ย
พ่อแท้ๆ ของกิ๊ฟก็คือป้าเอง
แม้สงครามนางงาม 2 จะจบมาแล้วหลายปี แต่ประโยค “พ่อแท้ๆ ของกิ๊ฟก็คือป้าเอง” ไม่เคยหายไปจากพวกเรา และกลับมาโด่งดังอีกครั้งในปี 2024 จนมีคนโคฟเวอร์ลงติ๊กต็อกกันเป็นพันๆ คลิป แถมยังมีการดัดแปลงความหมายใหม่ขึ้นมา ใช้เฉลยความจริงในเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือใช้ในสถานการณ์ที่เรื่องราวตรงหน้าดูจะคลี่คลายไม่ได้ง่ายๆ ไม่รู้ว่าความจริงจะหวยออกทางไหน ก่อนที่สถานการณ์จะคุกรุ่นไปมากกว่าเดิม ก็ลองแก้ไขเหตการณ์นั้นด้วยประโยคว่า พ่อแท้ๆ ของกิ๊ฟก็คือป้าเอง ไม่ต้องสนว่าเพื่อนจะงงไหม แค่เอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้าได้ก็พอ เน้นให้มีคำตอบไว้ก่อน ความหมายไว้ว่ากันอีกที สมแล้วที่พ่อแท้ๆ ของกิ๊ฟก็คือป้าเอง
มิสแกรนด์!!!
“อร้ายยยยยยยย ปากดี!!!! มิสแกรนด์!!!!” ไม่ได้เกี่ยวกับเวทีประกวดนางงาม หรือบอสณวัฒน์แห่งบ้านแกรนด์แต่อย่างใด เพราะคำนี้เอาไว้ใช้เวลาฉุนเฉียว หัวฟัดหัวเหวี่ยง มีน้ำโห ต้นกำเนิดของคำนี้ก็มาจากคุณหนูอร สตรีมเมอร์เกม FIVE M ที่กำลังวีนคนในเกม ด้วยการกรี๊ดและตะโกนว่า ‘ปากดี!!!! มิสแกรนด์!!!’ เพื่อเป็นการท้าตบ และใช้กำลังกันในเกม หลังจากคลิปนี้กลายเป็นไวรัล เมื่อไหร่ที่ใครอารมณ์เสีย เจอคนปากดี หรืออยากใส่อารมณ์กับอะไรสักอย่างก็จะใช้คำว่า มิสแกรนด์ แทนการอาละวาดด้วยคำหยาบอื่นๆ นี่ล่ะ ลดการปะทะตัวต่อตัว ด้วยการข่มความโมโหไปกับคำว่ามิสแกรนด์!!!!!!
รีอัล ออ ฟาเก้
จริงหรือเค้กเวอร์ชั่นใหม่ในปี 2024 ก็คือ ‘รีอัล ออ ฟาเก้’ ที่มาจากคำภาษาอังกฤษสะกดตรงตัวว่า ‘real or fake’ เพื่อถามว่าสิ่งนี้คือเรื่องจริงไหม แต่แน่นอนว่าพอเอามาใช้กันไปทั่วแล้ว คำตอบที่ได้ไม่เคยจะรีอัลเลยสักครั้ง ถามกี่ครั้งก็ฟาเก้ตลอด เหมือนกับที่โบนัสปลายปีที่หัวหน้าแกล้งบอกว่ามี แต่สุดท้ายก็ฟาเก้น่ะ ^_^
โล่งๆ เหมือนโดเรม่อน
ช่วงหนึ่งของปีนี้หันไปทางไหนใครๆ ก็เอาแต่พูดว่า ‘โล่งๆ เหมือนโดเรม่อน’ ไว้ใช้ได้ทุกสถานการณ์ตั้งแต่คิดงานไม่ออก หัวหน้าถามไอเดียก็ได้แต่นั่งเงียบ ไปจนถึงมื้อกลางวันก็ยังรอลอกเพื่อน เพราะในหัวโล่งๆ เหมือนโดเรม่อน แต่รู้กันมั้ยว่าจริงๆ แล้วที่มาคือ แชตพูดคุยกันเล่นๆ ที่ถูกแคปมาลงในอินเทอร์เน็ตว่า ทอมไม่มีจิ๋มนะ แล้วอีกฝ่ายถามว่ามีจู๋ว่างั้น? แต่คำตอบที่ออกมาดันคือ ไม่มี ‘โล่งๆ เหมือนโดเรม่อน’ กลายเป็นว่าฮาระเบิด ถูกอกถูกใจชาวเน็ตเหลือเกิน จนชาวเน็ตถึงกับต้องออกปากแซวเลยว่า เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าโดเรม่อนเป็นทอมนี่เอง
อดทนจนกว่าจะแลนด์
“ทำงานกับพี่เหนื่อยหน่อยนะ เพราะพี่เป็นคนละเอียด” ประโยคฮิตจากละครกะเทยธรรม
ในปี 2024 ขอปัดละครคุณธรรมที่โด่งดังมาหลายปีออกไปก่อน เพราะ genre ใหม่ของละครที่มาแรงคือ ‘ละครกะเทยธรรม’ ด้วยความคับคั่งของเนื้อหาสาระและท่วงท่าที่เร้าใจ ยิ่งได้บทแจ้งเกิดที่เปรี้ยงปร้างติดหูคนไทยอย่าง “อดทนจนกว่าจะแลนด์” ยิ่งทำให้กระแสตอบรับพุ่งทะยานถึงขีดสุด และที่อดทนจนกว่าจะแลนด์แมสได้ขนาดนี้ เพราะชีวิตคนไทยเหมาะจะใช้มากจริงๆ ในทุกวันเราเจอคนที่ทำให้อยากกรี๊ดสุดปอดอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ดันหนีไปไหนไม่ได้ ก็มันดันเป็นเจ้านาย เป็นลูกค้า เป็นเพื่อนร่วมงาน ก็เลยทำได้แค่ท่องกับตัวเองเอาไว้ว่า อดทนจนกว่าจะแลนด์นะ หลุดพ้นอินี่ไปได้ในวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาเจอมันใหม่
อุ฿
ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆ วันหนึ่งสกุลเงินที่อยู่ของมันเฉยๆ ก็หนีไม่พ้นต้องถูกคนไทยหยิบยืมมาใช้เป็นคำด่า ก็ในเมื่อเราอยู่ในสังคมซึ่งแวดล้อมไปด้วยคนที่มีพฤติกรรมให้ต้องกลอกตาและเบะปากออกมาอะเนอะ แถมความคิดสร้างสรรค์ของเราก็ไม่เป็นสองรองใครซะด้วย ปกติจะพิมพ์ด่าใครสักคนว่า อุบาทว์ ก็ช่างแสนยาว เหลือบตามองแป้นสักหน่อยก็เจอสัญลักษณ์จิ๋วๆ อย่าง ฿ เพื่อบ่งบอกสกุลเงินบาท ในหัวก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันทีว่า ไหนๆ ก็พ้องเสียงกันแล้ว คนขี้เกียจพิมพ์แต่อยากด่าคนอย่างเราเลยขอยืมมาใช้หน่อยแล้วกัน จาก ‘อุบาทว์’ สู่ ‘อุ฿’ แถมบางคนก็ขี้เกียจถึงขั้นด่าแค่ อุ เฉยๆ ก็มี เป็นคำง่ายๆ แต่ความหมายสุดลึกล้ำยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือได้ลดเวลาการพิมพ์ ไปเพิ่มความสรรค์สร้างนั่นแหละ